หากคุณมีธุรกิจ #OmniChannel ที่มีสินค้าหลากหลายและลูกค้าที่มาจากหลากหลายช่องทาง และอยากที่จะรวมศูนย์ทุกโอกาสการขายและเห็นตัวเลขที่สำคัญต่อธุรกิจของคุณจริงๆ อย่าพลาดบทความนี้นะครับกับ “10 จุดเด่นของ GROWTH.ai : CDP ของคนไทยที่มาพร้อมทีม Data Scientist ส่วนตัว” แล้วคุณจะประทับใจกับบริการที่ช่วยคิดแทนให้ทุกอย่างครับ!
มาพบกับ 10 จุดเด่นของ GROWTHai กันครับ
(อย่าลืมเลื่อนไปดู ลิงค์ทดลองใช้ กันนะครับ!)
1. Dashboard แบบ customized ตามลูกค้าแต่ละราย
ทีม GROWTH.ai พร้อมออกแบบแดชบอร์ดเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของลูกค้าแต่ละรายแบบ Personalized มากๆ ภาพ Visualization ที่ออกมา ตัวกรองต่างๆ รวมถึงเงื่อนไขในการดึงข้อมูลจะเป็นไปตามที่คุณต้องการทั้งหมด เพราะทุกธุรกิจมีความเฉพาะตัว
อย่างไรก็ตาม GROWTH.ai ก็มี framework วิธีคิดแบบมืออาชีพพร้อมแนะนำลูกค้า เช่น
Journey conversion
Customer life cycle
Demographic หรือโปรไฟล์ของลูกค้า
RFM model เป็นต้น
2. มาพร้อมกระบวนการคิด Data modeling อย่างมืออาชีพ
การที่จะได้มาซึ่งตัวชี้วัดสำคัญในมุมต่างๆ ที่เราต้องการวิเคราะห์ และวิธีได้มาซึ่งตัวเลขนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายหากไม่มีประสบการณ์หรือวิธีคิดที่ถูกต้องนะครับ
GROWTH.ai พร้อมจะช่วยคิดและปั้น data model ซึ่งจะให้ตัวชี้วัดต่างๆ ที่จำเป็นในเชิง #CDP ได้ เช่น
Engagement score
Lead scoring
Health score
Claim probability
Propensity to cross-sell หรือ up-sell
Recommended products
ซึ่งแปลว่า Growth.ai จะต้องเข้าใจธุรกิจของลูกค้าแต่ละรายเพื่อที่จะคำนวณหาตัวเลขตรงนี้มาให้ได้ครับ
3. ได้เห็น Data ทรงคุณค่าแบบไม่ต้องคิดเอง ไม่ต้องทำ Manual
อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้น GROWTH.ai ทำให้ทั้งการคิด Framework ของข้อมูล โมเดลที่มาของข้อมูล และการแสดงผลอย่างสวยงาม ที่ทำเองแบบ Manual แทบจะไม่ได้ เช่น
Sales Funnel หรือ กรวยทางการขาย
Marketing conversion rate อัตราการ Convert จาก Visitor มาเป็น Lead คุณภาพ
Lead ที่เข้ามาในแต่ละช่องทางแบ่งตาม Funnel ความสนใจในการซื้อ
Customer lifetime value ว่าลูกค้าทั้งหมดมีมูลค่าในการซื้อเท่าไหร่
มี Opportunity gap ในการซื้อเพิ่มอีกเท่าไหร่
แบ่งลูกค้าตามหลัก RFM ได้อย่างไรบ้าง มีกี่คนในแต่ละกลุ่ม
ซื้อของแบรนด์อะไรบ้างมากน้อยกว่ากัน
มี Stickiness หรือความซื้อซ้ำต่อเนื่องตลอดช่วงเวลายังไง
ประเภทสินค้าที่แนะนำให้ทำการ cross-sell หรือ up-sell กับลูกค้า
4. การสร้าง Segmentation แบบไม่จำกัด + สร้าง Lookalike ได้ทันที
ต่างจากเครื่องมืออื่นๆ ในตลาดตรงที่ GROWTH.ai ให้อิสระในการสร้าง Segment หรือกลุ่มลูกค้าได้แบบไม่จำกัด ที่สำคัญ Segment เหล่านี้ยังเป็นแบบ Dynamic คือมีการเพิ่มลูกค้าใหม่ที่เข้าข่าย และตัดลูกค้าที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขนั้นอีกต่อไปออก ตลอดเวลาอีกด้วย
และยังสามารถอัพโหลดข้อมูลของ Segment นั้นๆ ไปสร้างเป็น Facebook custom audience หรือ Facebook Lookalike ได้ทันที โดยให้ Facebook ไปหากลุ่มคนที่มีคุณลักษณะคล้ายกับลูกค้าที่เราอัพโหลดขึ้นไป เพียงเท่านี้ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยิงแอดในตรงกลุ่มมากขึ้นได้แล้วละครับ
นอกจากนี้ GROWTH.ai ยังแอบกระซิบมาด้วยว่าฟีเจอร์การสร้าง Lookalike ของ Google ก็กำลังจะตามมาเร็วๆ นี้นะครับ
5. Tracking ลูกค้าได้แบบละเอียดมาก ผ่านการติด GTM เองไม่ต้องใช้เครื่องมือเสริม!
แค่ทำการติด tag ต่างๆ ผ่าน Google Tag Manager ที่ปกติทุกคนน่าจะทำกันอยู่แล้ว ระบบของ Growth.ai ก็จะสามารถทำงานได้เลย โดยจะช่วย track พฤติกรรมลูกค้าที่ละเอียดกว่าที่ Google ทำได้เสียอีกครับ
ไม่ว่าจะเป็นการดูว่าลูกค้าไปสนใจ
ดูสินค้าตัวไหน
หยิบอะไรใส่ตระกร้า
อ่านบทความอะไร
กลุ่มหัวข้อที่สนใจพิเศษ
การขอราคา
ดาวน์โหลดแคตาล็อกไปมั้ย
สนใจโปรโมชันอะไร
เป็นต้นครับ แต่นอกจากนี้จริงๆ แล้ว GROWTH.ai ก็จะสามารถคิดวิธีการ track ลูกค้าตาม Customer Journey หรือความต้องการของคุณในบริบทของเว็บไซต์ของคุณได้เพิ่มเติมอีกครับ
6. สร้างฟอร์มเก็บลีดได้เลยในตัว
GROWTH.ai มาพร้อมฟีเจอร์การสร้างฟอร์มใดๆ ในตัว ไม่ต้องเชื่อมต่อกับระบบอื่น โดยจะสร้างกี่ฟอร์มก็ได้ และสามารถระบุช่องข้อมูลที่ต้องการทั้งหมดได้เลย โดยจะดึงช่องข้อมูลทั้งหลายใน CDP มาแสดงให้เราเลือก พอลีดกรอกข้อมูลมา ข้อมูลก็จะวิ่งเข้ามาเก็บในฐานข้อมูลของ CDP ได้เลยอัตโนมัติ ไม่ต้อง Import/Export ข้อมูลให้วุ่นวาย สามารถเห็นจำนวนคนที่กรอกเข้ามา และความคืบหน้าตาม Journey พร้อมทำแคมเปญต่อยอดกับลีดเหล่านั้นได้เลย ไม่ว่าจะ Lead Nuturing, แจ้งสิทธิพิเศษ, แจ้งวันติดต่อกลับ หรือ หากต้องการใช้ Form เพื่อทำ Survey ก็ได้เช่นกัน
7. รองรับการแจก Lead ให้ทีมขาย พร้อมแจ้งเตือนในปฏิทิน
ต่อยอดจากการเก็บลีด บางธุรกิจก็อาจจะต้องมีการแจกลีดที่เข้ามาให้กับพนักงานขายหลายๆ คนในทีม โดย GROWTH.ai ก็สามารถช่วยรองรับโดยจะมีช่องให้เลือกพนักงานขายที่จะเข้ามาดูแลในลีดแต่ละราย
เมื่อมอบหมายเรียบร้อย ชื่อลีดนั้นก็จะเข้าไปยังปฏิทินรายวันของพนักงานขายที่เกี่ยวข้องทันที!
ช่วยบริหารทีมขายเบื้องต้นได้เลย สะดวกมากๆ ใช่มั้ยละครับ
8. การสร้าง Campaign Automation ได้อย่างง่ายดาย
เมื่อมีข้อมูลข้อมูลมาจากหลายๆ แหล่งและจัดกลุ่ม Segment เรียบร้อยแล้ว Growth.ai ก็จะช่วยทำหน้าที่สื่อสารกลับไปผ่านหลากหลายแคมเปญและช่องทาง โดยการ
เลือกกลุ่ม Segment ที่ต้องการ
เลือก Decision หรือเงื่อนไขการตัดสินใจของลูกค้าที่จะกำหนด Action ที่เราจะผูกต่อไป เช่น เปิดอีเมล คลิกลิงค์ เป็นต้น
เลือก Action หรือสิ่งที่เราต้องการให้ระบบทำให้ เช่น การส่ง SMS, การส่งอีเมล, การส่ง Push notification ทางแอปมือถือ เป็นต้น
และยังเลือก Condition หรือเงื่อนไขอื่นๆ ที่ต้องการสร้างเกณฑ์ในการทำ Action เพิ่มเติมในระบบได้อีกด้วย
ถือว่าเข้าใจได้ไม่ยาก และทำเองได้ง่ายๆ เลยครับ
9. สร้าง Landing page และออกแบบเท็มเพลตอีเมลได้เลยในตัว!
GROWTH.ai มีฟีเจอร์ให้เราสร้าง Landing page เฉพาะแคมเปญ และสร้างหน้าตาอีเมลที่ต้องการส่งในแต่ละแคมเปญได้เลยในระบบ ไม่ต้องเชื่อมต่อกับ Third party อื่นๆ ให้เสียเงินเพิ่มกันเลยครับ
วิธีการทำก็ง่ายมากๆ เพราะเป็นแบบ Drag and drop ซึ่งนักการตลาดน่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว
ใส่ภาพ แก้ Text ใส่ปุ่ม Embed code ต่างๆ ได้เลยอย่างอิสระ
จะเลือกสร้างเองจากศูนย์หรือจะเลือกสร้างจากเท็มเพลตที่มีมาให้อยู่แล้วก็ได้ครับ!
10. ช่องทางสื่อสารที่ครอบคลุมในการสร้าง Campaign
มาถึงข้อสุดท้ายที่เราคิดว่า GROWTH.ai ทำได้ดีมากๆ เลย ก็คือช่องทางการสื่อสารที่ครอบคลุมสุดๆ ในการ ทำแคมเปญ โดยระบบจะช่วยทำให้แคมเปญวิ่งไปเองตามอัตโนมัติ ได้แก่
การส่งข้อความผ่าน SMS ที่ตั้งเงื่อนไขเวลาและสร้าง Personalized message ได้
การส่งอีเมล โดยเลือกจากเท็มเพลตที่สร้างไว้แล้ว
การส่งข้อความผ่าน Line
การส่งข้อความผ่าน Facebook Messenger
โดยต่อจาก Action เหล่านี้ เราก็สามารถใส่เงื่อนไข Decision เพิ่มไปได้อีกด้วยว่าหากมีการคลิก การอ่านใดๆ จะให้ทำอะไรต่อไป
ถือว่าครอบคลุมมาก แถบจะไปต้องออกไปทำงานนอกแพลตฟอร์มของ Growth.ai แล้วละครับ
แพ็กเกจราคา
GROWTH.ai แบ่งวิธีคิดราคาเป็น 3 ก้อนครับ ได้แก่
On-time setup fee ค่าเซ็ทอัพระบบต่างๆ เป็นโปรเจ็คครั้งเดียว
Monthly fee ค่ารายเดือนเพื่อใช้งานระบบ
และ Pre-paid message credits ค่าส่งข้อความผ่านทางแพลตฟอร์มต่างๆ
โดยล่าสุด
ค่าเซ็ทระบบจะเริ่มจาก 300,000 บาทต่อโปรเจ็ค
ค่ารายเดือนเริ่มจากเพียง 30,000 บาทต่อเดือน
และค่าเครดิตข้อความ เริ่มจาก 25,000 ต่อครั้ง ซื้อเท่าที่ต้องการใช้ได้เลยครับ หรือจะมาคุยเพิ่มเติมเพื่อปรับให้เหมาะกับความต้องการของคุณก็ได้ครับ
เหมาะกับใคร?
GROWTH.ai เหมาะกับธุรกิจที่
มีประเภทสินค้าหลากหลาย มีจำนวน SKU มาก และสินค้าเหล่านั้นสามารถจัดให้มีการ cross-sell, upsell กันได้ เป็นสินค้าที่เกิดการซื้อซ้ำได้
อาจมีลูกค้าประมาณ 50k รายขึ้นไป ต้องการบริหาร Life Cycle ของลูกค้า และในระหว่าง Cycle นั้นสามารถทำ Campaign ได้เรื่อยๆ โดยอยากจะเน้นการให้ระบบทำให้เป็นหลัก
เพราะฉะนั้น เราอาจบอกได้ว่า Growth.ai นั้นเหมาะกับ
ธุรกิจ Retail ทั้งที่มีแบรนด์ของตนเอง ผลิต/ขายเอง หรือซื้อมาขายไป
หรือธุรกิจประเภทบริการ เช่น คลินิกเสริมความงาม โรงพยาบาลสัตว์ ร้านนวดสปา ที่เน้นการขาย up-sell/cross-sell และทำแคมเปญกับลูกค้าทั้งปัจจุบันและลูกค้าใหม่ เป็นต้น
นอกจากที่เรารีวิวกันวันนี้ GROWTH.ai ก็ยังมีแผนที่จะพัฒนา
เพิ่มเติมโมเดล data อื่นๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำของข้อมูล
จะรองรับข้อมูลได้หลากหลายมากขึ้น
จะเพิ่มการเชื่อมต่อกับ ERP และแพลตฟอร์มใหม่ๆ มากขึ้น
จะเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับ end consumer ผ่านทางการทำ Google lookalike และ Tiktok Lookalike
และยังมีแนวโน้มจะขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆใน APAC อีกด้วยครับ
มาถึงตรงนี้กันแล้ว หากใครอยากจะให้ทาง GROWTH.ai เข้าไปคุยกันเพิ่มในเคสของตนเองก็สามารถติดต่อไปตามรายละเอียดที่ขึ้นให้ด้านล่างได้เลยครับ
✨ใครสนใจอยากขอรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปที่ Link ทางด้านล่างนี้ได้เลยครับ✨ https://www.analytist.co/contact-
================================
อย่าลืมกดกระดิ่งและ Subscribe ช่อง #Toolscape ของเราเพื่อตามอัปเดตแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ที่มีประโยชน์ต่อการบริหารจัดการธุรกิจ
นอกจากนี้ ยังติดตามเราได้ในช่องทางอื่นๆ ตามนี้เลย
📍Website: https://www.asapproject.co
📍Facebook: https://www.facebook.com/ToolscapebyASAP