top of page
  • Thiti Kunajipimol

7 ประเด็นยอดเยี่ยมของออฟฟิศ Google Singapore

ASAP Project แทบจะตอบรับในทันที ที่เราได้รับคำชักชวนจากเพื่อนที่ทำงานใน Google สำหรับโอกาสในการเข้าเยี่ยมชมภายในออฟฟิศของ Google Singapore หนึ่งในบริษัทที่ๆใครๆก็อยากร่วมงานด้วย

ที่นี่ถือเป็น Headquater ของภูมิภาคนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นที่น่าเสียดายที่ทาง Google ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพทางด้านในได้แต่หลายๆท่านอาจจะเคยเห็นบรรยากาศภายใน จากสื่ออื่นๆ กันบ้างแล้วว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง แต่ในบล็อกนี้ ASAP Project จะมาชวนคิดกันว่า บริษัท IT ยักษ์ใหญ่แห่งนี้ สามารถสร้างแรงขับเคลื่อนโลกของเราจากความใส่ใจ ที่สะท้อนออกมาจากสิ่งที่อยู่ภายในออฟฟิศอย่างไรบ้าง และนี่คือประเด็นที่เราสังเกตเห็น



1. การออกแบบปลายเปิด

ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของออฟฟิศคุณจะได้เจอกับ Art Installation ที่เปิดโอกาสให้มีการต่อยอดในการสร้างสรรค์ได้มากมาย เริ่มตั้งแต่ป้าย Google หน้าโถงลิฟต์ด้านล่างที่เป็น Interactive Sculpture ที่รวมเครื่องมือดนตรีไว้กับงานศิลปะ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปขันฟันเฟืองเล่น music boxได้ ส่วนด้านในคุณจะได้พบกับไม่ว่าจะเป็น Lego Board ที่มีการต่อไว้แล้วลำดับหนึ่งแต่คุณสามารถเข้าไปต่อเติมเพิ่มได้ตามจินตนาการของคุณ Painting wall ที่มีกระดาษพร้อมสีให้พนักงานได้เขียนข้อความหรือวาดรูปน่ารักๆทอ้งเอาไว้ หรือแม้กระทั้ง Digital interactive wall ในรูปแบบและเทคนิคต่างๆที่น่าสนใจ ทั้งหมดนี้เพื่อกระตุ้นให้เกิความติดสร้างสรรค์และเสริมสร้างให้พนักงานมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน และสร้าง Bond และ Loyalty กับองค์กรมากขึ้นด้วย

2. ความเย็น = Productivity + Creativity

ตั้งแต่ก้าวแรกที่เราเข้าไปใน Google Singapore เราก็สามารถสัมผัสได้ว่าเครื่องปรับอากาศบริเวณพื้นที่ทำงานนั้นถูกปรับให้ค่อนข้างเย็น พอสมควร ซึ่งตอนแรกเราคิดว่าน่าจะเป็นเพราะ Singapore เป็นเมืองร้อนและพนักงานที่มาจากทั่วทุกมุมโลกคงชื่นชอบอากาศที่เย็นฉ่ำเป็นพิเศษ แต่เพื่อนของเราซึ่งปกติประจำอยู่ที่ Australia บอกว่าเปล่าเลยเพราะ Google ได้ตั้งอุณหภูมิภายในออฟฟิศสาขาต่างๆให้อยู่ที่ระดับเดียวกัน (เข้าใจว่าประมาณ 20-21 องศาเซลเซียส) เพราะเข้าใจว่าเป็นอุณหภูมิที่ทำให้พนักงานสบายและมี Productivity + Creativity สูงที่สุด

3. โฟกัสกับงานของคุณ แล้วลืมประโยคคลาสสิก “เที่ยงนี้กินอะไรดี” ไปได้เลย

หลายคนคงเคยได้ยินว่า Google เป็นบริษัทดูแลพนักงานดีมากๆ และก็จริงครับ mini bar ที่มีอยู่ทุกๆชั้น infused-water เครื่องดื่มนาๆชนิด ขนม ของว่าง และ ผลไม้ ถูกเตรียมไว้ไม่ได้ตกบกพร่อง และในชั้นที่มี Facility สำหรับการประชุมหรือพื้นที่พูดคุยก็จะมี บาร์กาแฟพร้อมบาริสตาบริการ ซึ่งมีหลักฐานเป็นถ้วยรางวัลแชมเปียนอยู่ที่หน้าบาร์ (เราขอยืนยันว่าอร่อยมากๆ)และเมื่อเราเดินไปชั้นบนสุดของบล็อกหลัก เราก็จะพบกับโรงอาหารกลาง ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นจุดศูนย์กลางที่เชื่อมทุกๆบล็อก ของบริษัทเข้าด้วยกัน เมนูของที่นี่จะประกอบไปด้วยอาหารนานาชาติ เหมือนกับบุฟเฟต์โรงแรม (ซึ่งเราขอยืนยันว่าอร่อยมากๆอีกเช่นกัน) ในเมื่อคุณไม่ต้องกังวลเรื่องเที่ยงนี้จะกินอะไรดี ไม่ว่าคุณจะจู้จี้เรื่องอาหาร หรือ กาแฟมากแค่ไหนสิ่งที่ Google เตรียมไว้ให้กับพนักงาน จะทำให้พวกเขาสามารถโฟกัสกับงานได้อย่างเต็มที่จริงๆ

4. เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม และ ความคิดที่แตกต่าง

แน่นนอนว่าพนักงานของ Google มาจากทั่วทุกมุมโลก และมีการเดินทางไปมาระหว่างเจ้าหน้าที่แต่ละสาขาอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ Google เองต้องคิดให้สิ่งต่างๆภายในองค์กรเป็นสากลแบบนานาชาติมากที่สุดตั้งแต่อาหาร ไปจนถึงการสอดแทรกเรื่องภาษาต่างชาติไปบนพื้นที่ต่างๆ ซึ่งตามที่เราสัเกตดูการตั้งชื่อห้องประชุมต่างๆก็ถือเอาชื่อเมืองและถนนต่างๆจากทั่วทุกมุมโลกมาตั้งเช่นกัน จริงๆแล้วประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนซึ่ง Google เองจะต้องพยายามย้ำให้ทุกคนรู้ว่าเราทำงานร่วมกันเป็นทีมในฐานะของ Global citizen ไม่ใช่การแข่งขันกันระหว่างทีมงานจากแต่ละชาติ

5. สุขภาพและความสบายใจคือสิ่งสำคัญ


Work-life Balance คือสิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญและ Google เองก็เช่นกัน

Fitness Centre โต๊ะปิงปอง เกมส์แข่งบาส โต๊ะพูล บอร์ดเกมส์ ไปจนถึงห้องกิจกรรม VR ถูกจัดไว้ให้พนักงานได้มีโอกาสออกกำลังกายและผ่อนคลาย กระจายไปทั่วทั้งสำนักงาน แต่ถ้าเราสังเกตการใช้งานจริงของพนักงานเราจะเห็นว่า พื้นที่เหล่านี้ จะเป็นอีกพื้นที่หนึ่งในการพบปะสังสรรค์ ซึ่งทำให้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไม่ต่างจากห้องประชุม

นอกจากนี้ ในมุมทำงาน Google ก็ได้จัดโต๊ะทำงานแบบไฮโดรลิก และเก้าอี้เพื่อสุขภาพ พร้อมทั้งอุปกรณ์ คีย์บอร์ด และ หน้าจอ ในตำแหน่งที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด เพื่อป้องกันพนักงานจาก Office Syndrome ในเมื่อพนักงานสบายไม่มีปัญหาปวดหลังเมื่อยไหล่มารบกวน ก็จะสามารถ Focus กับงานได้มากขึ้นอยู่แล้ว


6. พื้นที่ประชุม นอกห้องประชุม


ในทุกๆชั้น ทุกๆมุม ของ Google สิงคโปร์เราจะพบมุมต่างๆที่เตรียมไว้สำหรับการพูดคุย หรือพบปะสังสรรค์กัน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเล็กๆสำหรับสองคน โซฟาสบายๆ สำหรับกลุ่มใหญ่ หรือมุมที่มีฉากกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาอย่างดี พร้อมกับ ปลั๊กไฟสำหรับชาร์จอุปกรณ์ที่เพียงพอๆ ซึ่งพนักงานเองก็ดูจะชื่นชอบมานั่งทำงาน หรือคุยงานกันแบบไม่ต้องเป็นทางการมากนัก ซึ่งเราเชื่อว่าการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้นคือวิธีที่ทำเราสามารถต่อยอดความคิด และพัฒนาตัวเองได้เร็วที่สุด


7. Googlers DNA!

หลังจากการเดินสำรวจเข้าออกพื้นที่ต่างๆและนั่งเสวนากับเพื่อนๆอยู่หลายชั่วโมง ภายใน Google สิงคโปร์ สิ่งที่เราสัมผัสได้อย่างชัดเจนก็คือ ทุกๆคนในสถานที่นี้ มีลักษณะคาแรคเตอร์ที่ค่อนข้างคล้ายกัน คือ Active สดใส อยากรู้อยากเห็น และมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีมทุกคนตลอดเวลา บางคนใน Google เองก็บอกว่า ความเก่งไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่พวกเขาพิจารณาในการรับคนเข้าทำงาน แต่เป็นทัศนคติแบบ Googlers ต่างหากที่พวกเขาให้ความสำคัญ


ASAP Project คิดว่านอกจากความฉลาดและเก่งกาจของทีมงานแล้ว ความใส่ใจที่สะท้อนอยู่ในการออกแบบออฟฟิศของ Google นั้น คือหนึ่งในเบื้องหลังความสุดยอดของนวัตกรรมต่างๆ ที่ทีมงานได้สร้างสรรค์ ออกมาให้คนทั่วโลกได้ใช้งานกัน และไม่แปลกใจเลยว่านี่คือหนึ่งในส่ิงที่ Google ใช้ในการ ดึงดูดเหล่าหัวกะทิระดับโลกเข้ามาทำงานให้กับตัวเองได้



bottom of page