ทรานส์ฟอร์มให้สำเร็จ ด้วย การมอบหมาย “หน้าที่และขอบเขตความรับผิดชอบที่ชัดเจน”
ในองค์กร มักจะมีสิ่งที่เรียกว่า Job Description หรือขอบเขตงานกันอยู่แล้วในทุกตำแหน่งใช่มั้ยคะ
แต่โปรเจกต์ DX ที่จะทำการทรานส์ฟอร์มสิ่งที่มีอยู่แล้ว หรือทำสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในองค์กร มักจะเป็นหน้าที่ใหม่ที่ขอบเขตงานเหล่านี้ไม่มีเขียนไว้ และไม่มีใครเป็นเจ้าของที่ชัดเจน
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของอุปสรรคในการทำโปรเจกต์ค่ะ
จากประสบการณ์ของเรา การทำให้ R&R หรือ Roles and Responsibilities ของหน้าที่ใหม่เหล่านั้น ชัดเจนมากๆ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ต้องทำก่อน และต้องทำให้เร็ว
แต่หลายครั้ง องค์กรอาจจะยังไม่เห็นความสำคัญหรือเร่งด่วนของเรื่องนี้ ลงมือจัดการช้าไป จนเกิดผลกระทบและต้องมาตามจัดการตามหลัง
TYPE
Thoughts
เรื่องใหม่ ไม่มีใครทำ
พูดถึงการทำ DX เรามักจะพูดถึงโปรเจกต์ใหม่ ทำเรื่องที่ไม่มีคนทำมาก่อน ไม่มีเขียนอย่างละเอียดไว้ในขอบเขตงานตอนสมัครเข้ามา พอโดนดึงเข้ามาทำโปรเจกต์ด้วยกัน แน่นอนว่าต้องมีความสับสน ไม่เข้าใจ ไม่ชัดเจน ไม่รู้ใครต้องทำอะไร ต้องแจ้งใคร ต้องให้ใครอนุมัติ ฯ
ความสับสนตรงนี้ ถ้าไม่ยอมจับมามองให้ชัดเจน จะกลายเป็นที่มาของความทะเลาะเบาะแว้ง และการเกี่ยงงาน ที่เราไม่มีเวลาพอจะมานั่งแก้ปัญหาในโปรเจกต์ที่เร่งรีบ
หลายครั้งที่มีหน้าที่ใหม่หรืองานใหม่ที่เพิ่มเข้ามาจากโปรเจกต์ มักจะไม่มีใครกล้าพอจะยกมือรับมาทำ หรือยกมือโยนให้คนอื่นทำ (อย่างน้อยๆ ก็ในประเทศแถบเอเชียเรา)
นั่นเป็นซีนที่จริงๆ “Project Sponsor” ต้องเข้ามามีบทบาทให้การตัดสินใจ และมอบหมายหน้าที่ หากโครงสร้างของทีมยังไม่ชัด ถึงขนาดแม้แต่ Project Manager ก็ยังไม่เคลียร์
📍 Key Takeaways
สรุปสั้นๆ เรื่องความสำคัญของ R&R
👉🏻 โปรเจกต์อย่าง DX เป็นเรื่องใหม่เกือบจะเสมอ ไม่มีคนเคยทำ ไม่มีเขียนไว้ก่อน
👉🏻 หากละเลย R&R ปล่อยให้โปรเจกต์เดินไปแบบไม่ชัดเจน: อาจทำให้โปรเจกต์ล่าช้า หรือหยุดไปด้วยความไม่ชัดเจน, เกิดความขัดแย้งในทีมและเกี่ยงภาระงาน, รับงานมาแบบยอมจำนนทำให้เกิดภาวะหมดกำลังใจในการทำงาน, และงานที่ไม่มีคนจัดการชัดเจน ก็จะไม่ได้รับการตรวจสอบที่ดี ทำให้อาจมีผลกระทบทางลบกับทั้งองค์กร
👉🏻 ก่อนจะทรานส์ฟอร์ม รีบดูก่อนว่าน่าจะมีหน้าที่งานใหม่ๆ อะไรบ้างที่จะเพิ่มมา จะต้องมีตำแหน่งงานใหม่หรือคนใหม่ที่ต้องหาหรือไม่ และดึง HR เข้ามามีส่วนในการวางแผนกำลังพล นอกจากนี้ ควรจะปลูกผังมุมมองแบบ Growth Mindset ให้กับทีมที่จะเป็น Key Driver ให้กับโปรเจกต์
👉🏻 ถ้ากำลังจะทำโปรเจกต์ทรานส์ฟอร์มหลายๆ ส่วนไปพร้อมๆ กัน หรือน่าจะมีหลายโปรเจกต์ อาจจะพิจารณาสร้างทีม Transformation หรือ Change Management ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อทำงานที่ต้องประสานกับหลายส่วนงาน ทำให้เกิดความคล่องตัวและรวดเร็ว
👉🏻 เริ่มทำตาราง RACI Matrix และลองใช้เพื่อเคลียร์ R&R กันดูนะคะ
ASAP Project เป็นที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ที่จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจด้วยเทคโนโลยี



