OMS คืออะไร? พร้อมชื่อโซลูชันที่แนะนำ!

ถ้าคุณทำธุรกิจขายออนไลน์หลายช่องทาง คงจะเคยได้ยินระบบที่เอาไว้จัดการออเดอร์กันมาบ้างใช่มั้ยละครับ วันนี้เราจะพาทุกคนมาเข้าใจระบบที่ว่านี้กัน ว่าใช้ทำอะไร เหมาะกับคุณหรือไม่ และมีใครบ้างในตลาดที่คุณสามารถลองใช้ได้

TYPE

Solution Guide

TOOL

OMS (Order Management System)

✅ ย่อมาจากอะไร?

OMS ย่อมาจาก Order Management System หรือระบบจัดการออเดอร์

✅ ย่อมาจากอะไร?

OMS ย่อมาจาก Order Management System หรือระบบจัดการออเดอร์

✅ ใช้ทำอะไร?

หลักๆ แล้ว OMS เป็นระบบที่ใช้

  • จัดการออเดอร์ที่ขายได้จากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือออฟไลน์ และติดตามสถานะการ “Fulfill” หรือจบกระบวนการของออเดอร์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการหยิบหรือแพ็คสินค้า ไปจนถึงการขนส่งสินค้า และ Tracking การขนส่งเหล่านั้น

  • และจัดการสต็อกและคลังสำหรับช่องทางการขายต่างๆ

📍 แต่ OMS ในตลาดไทยนั้น มีความสามารถเฉพาะตัวมากขึ้น เช่น

  • ระบบรวมแชทจากการขายออนไลน์หลายๆ ช่องทาง

  • ระบบสะสมแต้มสมาชิก

  • ระบบ POS แบบเล็กๆ

  • หรือแม้กระทั่งการมีหน้าเว็บไซต์ของตัวเอง

📍 OMS อย่างน้อยจะต้องสามารถ

  • ดึงออเดอร์จากช่องทางออนไลน์ต่างๆ มาไว้ในที่เดียว เช่น จาก Lazada, Shopee, เว็บไซต์ e-commerce, Facebook, Instagram เป็นต้น

  • บริหารจัดการสต็อกสินค้า แบ่งสัดส่วนสต็อกให้กับแต่ละช่องทางการขาย และดูระดับสินค้าในคลังซึ่งอาจจะมีหลายคลังได้

  • สั่งปริ้นเอกสารสำคัญในการจัดส่ง เช่น ใบปะหน้า ใบส่งสินค้า เป็นต้น

  • เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการขนส่ง เพื่อให้ทั้งแอดมินและลูกค้าสามารถ Track ออเดอร์ได้

  • มีรายงานและแดชบอร์ด เพื่อให้ติดตามยอดขาย สต็อก และสถานะของการจัดการออเดอร์

✅ ใช้ทำอะไร?

หลักๆ แล้ว OMS เป็นระบบที่ใช้

  • จัดการออเดอร์ที่ขายได้จากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือออฟไลน์ และติดตามสถานะการ “Fulfill” หรือจบกระบวนการของออเดอร์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการหยิบหรือแพ็คสินค้า ไปจนถึงการขนส่งสินค้า และ Tracking การขนส่งเหล่านั้น

  • และจัดการสต็อกและคลังสำหรับช่องทางการขายต่างๆ

📍 แต่ OMS ในตลาดไทยนั้น มีความสามารถเฉพาะตัวมากขึ้น เช่น

  • ระบบรวมแชทจากการขายออนไลน์หลายๆ ช่องทาง

  • ระบบสะสมแต้มสมาชิก

  • ระบบ POS แบบเล็กๆ

  • หรือแม้กระทั่งการมีหน้าเว็บไซต์ของตัวเอง

📍 OMS อย่างน้อยจะต้องสามารถ

  • ดึงออเดอร์จากช่องทางออนไลน์ต่างๆ มาไว้ในที่เดียว เช่น จาก Lazada, Shopee, เว็บไซต์ e-commerce, Facebook, Instagram เป็นต้น

  • บริหารจัดการสต็อกสินค้า แบ่งสัดส่วนสต็อกให้กับแต่ละช่องทางการขาย และดูระดับสินค้าในคลังซึ่งอาจจะมีหลายคลังได้

  • สั่งปริ้นเอกสารสำคัญในการจัดส่ง เช่น ใบปะหน้า ใบส่งสินค้า เป็นต้น

  • เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการขนส่ง เพื่อให้ทั้งแอดมินและลูกค้าสามารถ Track ออเดอร์ได้

  • มีรายงานและแดชบอร์ด เพื่อให้ติดตามยอดขาย สต็อก และสถานะของการจัดการออเดอร์

✅ ประเภทย่อยๆ

ถ้าให้พูดในบริบทของตลาดไทยแล้ว OMS ที่มีอาจจะแบ่งเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่

  1. OMS ที่เน้นเรื่องการบริหารสต็อก ซึ่งจะเก่งเรื่องฟีเจอร์ของคลังสินค้า การบริหารปริมาณสินค้าในคลัง และกระบวนการซื้อสินค้าเพื่อเติมสต็อก

  2. OMS ที่เน้นเรื่องช่องทางการขาย ซึ่งจะเน้นการเปิดเชื่อมต่อกับช่องทางการขายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ได้จำกัดแค่ออนไลน์ (E-Commerce platform ใหญ่ และ Social media) แต่อาจจะมีทั้งออฟไลน์ (คือมีระบบ POS เล็กๆ ในตัว) การขายผ่านแชท และการขายผ่านไลฟ์ เข้ามาเพิ่มด้วย

  3. OMS ที่เน้นเรื่องแชท ซึ่งมักจะเริ่มจากการเป็นระบบรวมแชทจากช่องทางต่างๆ ช่วยทำการปิดการขาย และดูดมาเป็นออเดอร์ อาจจะมีในส่วนของแชทบอทเพิ่มเข้ามาในบางตัว

✅ ประเภทย่อยๆ

ถ้าให้พูดในบริบทของตลาดไทยแล้ว OMS ที่มีอาจจะแบ่งเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่

  1. OMS ที่เน้นเรื่องการบริหารสต็อก ซึ่งจะเก่งเรื่องฟีเจอร์ของคลังสินค้า การบริหารปริมาณสินค้าในคลัง และกระบวนการซื้อสินค้าเพื่อเติมสต็อก

  2. OMS ที่เน้นเรื่องช่องทางการขาย ซึ่งจะเน้นการเปิดเชื่อมต่อกับช่องทางการขายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ได้จำกัดแค่ออนไลน์ (E-Commerce platform ใหญ่ และ Social media) แต่อาจจะมีทั้งออฟไลน์ (คือมีระบบ POS เล็กๆ ในตัว) การขายผ่านแชท และการขายผ่านไลฟ์ เข้ามาเพิ่มด้วย

  3. OMS ที่เน้นเรื่องแชท ซึ่งมักจะเริ่มจากการเป็นระบบรวมแชทจากช่องทางต่างๆ ช่วยทำการปิดการขาย และดูดมาเป็นออเดอร์ อาจจะมีในส่วนของแชทบอทเพิ่มเข้ามาในบางตัว

✅ เหมาะกับใคร?

ระบบ OMS เหมาะกับธุรกิจที่ทำการขายออนไลน์มากกว่า 1 ช่องทาง ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นธุรกิจใหญ่แล้วเท่านั้นถึงจะควรใช้ ธุรกิจเล็กๆ เอง หากได้ใช้ระบบ OMS ที่มีขนาดและฟีเจอร์พอสมควร ก็จะช่วยให้สเกลธุรกิจได้ง่ายขึ้น

เมื่อธุรกิจเริ่มขยายตัว มี Volume การขายมาก ก็จะต้องการเครื่องมือมาช่วยบริหาร เพราะมีทั้งสินค้าที่ต้องจัดการและคนเข้ามาช่วยทำงานมากขึ้นโดยธรรมชาติ OMS จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ สำหรับธุรกิจท่ีพึ่งพิงการขายหลายๆ ช่องทางและมี Volume ในการขายสูง

✅ เหมาะกับใคร?

ระบบ OMS เหมาะกับธุรกิจที่ทำการขายออนไลน์มากกว่า 1 ช่องทาง ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นธุรกิจใหญ่แล้วเท่านั้นถึงจะควรใช้ ธุรกิจเล็กๆ เอง หากได้ใช้ระบบ OMS ที่มีขนาดและฟีเจอร์พอสมควร ก็จะช่วยให้สเกลธุรกิจได้ง่ายขึ้น

เมื่อธุรกิจเริ่มขยายตัว มี Volume การขายมาก ก็จะต้องการเครื่องมือมาช่วยบริหาร เพราะมีทั้งสินค้าที่ต้องจัดการและคนเข้ามาช่วยทำงานมากขึ้นโดยธรรมชาติ OMS จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ สำหรับธุรกิจท่ีพึ่งพิงการขายหลายๆ ช่องทางและมี Volume ในการขายสูง

✅ ตัวอย่าง Vendor

1. OMS ที่เน้นเรื่องการบริหารสต็อก

2. OMS ที่เน้นเรื่องช่องทางการขาย

3. OMS ที่เน้นเรื่องแชท

และอื่นๆ อีกมากมายที่เราอาจจะยังไม่ได้ยกตัวอย่าง

✅ ตัวอย่าง Vendor

1. OMS ที่เน้นเรื่องการบริหารสต็อก

2. OMS ที่เน้นเรื่องช่องทางการขาย

3. OMS ที่เน้นเรื่องแชท

และอื่นๆ อีกมากมายที่เราอาจจะยังไม่ได้ยกตัวอย่าง

ASAP Project เป็นที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ที่จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจด้วยเทคโนโลยี

#zort #xcommerce #ketshopweb #page365 #zwizai #deepleai #ระบบจัดการออเดอร์

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.