เตรียมความพร้อมสู่ตลาดหลักทรัพย์ด้วย Digital Transformation

หลายธุรกิจที่มีศักยภาพด้านรายได้และการเติบโต กลับยังไม่สามารถก้าวสู่การยื่น IPO ได้สำเร็จ เนื่องจากความไม่พร้อมของระบบภายใน โดยเฉพาะด้านการเงิน การควบคุมภายใน และการจัดการข้อมูลอย่างโปร่งใส

บทความนี้จะอธิบายบทบาทสำคัญของ Digital Transformation ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและตลาดทุน ตั้งแต่การใช้ระบบ ERP การจัดการควบคุมภายใน การกำกับดูแลข้อมูล ไปจนถึง Cybersecurity & Compliance พร้อมแนะนำบทบาทของ 6 กลุ่มที่ปรึกษาที่จำเป็นสำหรับกระบวนการ IPO

TYPE

Thoughts

ปัจจัยความสำเร็จในการยื่น IPO

แม้ธุรกิจไทยจำนวนไม่น้อยจะมีศักยภาพทั้งด้านผลิตภัณฑ์ รายได้ และการเติบโต แต่ยังไม่สามารถก้าวเข้าสู่ตลาดทุนได้สำเร็จ เพราะติดข้อจำกัดสำคัญอย่าง “ระบบภายในที่ยังไม่พร้อม” ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ (SET และ mai) เปิดรับบริษัทใหม่เข้าสู่กระบวนการ IPO อย่างต่อเนื่อง แต่มีเพียงส่วนน้อยของบริษัททั้งหมดในประเทศที่สามารถผ่านการยื่น Filing ได้จริง

สาเหตุหลักที่ทำให้หลายบริษัทไม่สามารถยื่น IPO ได้สำเร็จ ได้แก่

  • ผลประกอบการไม่เป็นไปตามเกณฑ์ 

  • โครงสร้างบริษัทไม่ชัดเจน 

  • ขาดระบบ GRC (Governance, Risk, Compliance) 

  • ขาดการควบคุมภายในที่ไม่โปร่งใส่ เช่น ระบบทางการเงินที่ไม่สอดคล้อง การทำรายการโยงผู้ที่เกี่ยวข้องไม่เหมาะสม

  • การขาดความพร้อมระบบหรือความพร้อมภายในองค์กร การจัดการข้อมูลและธรรมาภิบาล เช่น ขาดระบบที่แสดงถึงความโปร่งใส่ของบริษัท เช่น ระบบ ERP ที่ไม่ผ่านการรองรับของ กลต หรือขาดรายงานที่ กลต ร้องขอ เป็นต้น

6 กลุ่มที่ปรึกษาในการเข้าตลาด

ในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง แต่จำเป็นต้องมีทีมที่ปรึกษามืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายเข้ามาร่วมวางแผน ควบคุม และบริหารจัดการความเสี่ยงในทุกขั้นตอน เพื่อให้กระบวนการ IPO สำเร็จอย่างราบรื่น โปร่งใส และเป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดทุน ทีมที่ปรึกษาหลักๆ ประกอบด้วย 5 กลุ่ม ดังนี้

  1. Financial Advisor (FA)
    ผู้วางแผนกลยุทธ์และวางโครงสร้างการเสนอขายหุ้น โดยจะช่วยตรวจสอบความพร้อมของบริษัทในทุกมิติ ทั้งด้านการเงิน การบริหารจัดการ และการดำเนินธุรกิจ รวมถึงช่วยจัดทำเอกสาร Filing เพื่อยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต.

  2. Legal Counsel
    ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ทำหน้าที่ตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงทางกฎหมายต่างๆ ทั้งสัญญา การดำเนินธุรกิจ และข้อกำหนดตามกฎหมายตลาดทุน เพื่อให้บริษัทมีความพร้อมและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างถูกต้อง

  3. Auditor
    ผู้สอบบัญชีและรับรองงบการเงิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทางการเงินและแสดงความเห็นที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและหน่วยงานกำกับดูแล

  4. Underwriter / Investment Bank
    ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่จะช่วยวางแผนและดำเนินการขายหุ้นของบริษัทให้แก่ประชาชนทั่วไป เป็นตัวกลางสำคัญระหว่างบริษัทกับนักลงทุนในตลาดทุน และช่วยระดมทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

  5. PR/IR (Investor Relations) (Optional)

    • PR ทำหน้าที่ดูแลภาพลักษณ์และการสื่อสารของบริษัทในช่วงก่อนและหลัง IPO เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความสนใจจากตลาด

    • IR รับผิดชอบในการเตรียมระบบและเนื้อหาเพื่อนำเสนอข้อมูลที่สำคัญแก่ผู้ลงทุน เพื่อสร้างความเข้าใจและความมั่นใจในธุรกิจของบริษัท

  6. IT Consultant
    ที่ปรึกษาด้าน IT ช่วยวางแผนและให้คำแนะนำการใช้เครื่องมือและผู้ให้บริการที่เหมาะสม ให้ตอบโจทย์ครบทุกด้าน เพื่อสอดคล้องกับข้อกำหนดของ SET หรือความคาดหวังของนักลงทุนในอนาคต ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จ

6 กลุ่มที่ปรึกษาในการเข้าตลาด

ในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง แต่จำเป็นต้องมีทีมที่ปรึกษามืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายเข้ามาร่วมวางแผน ควบคุม และบริหารจัดการความเสี่ยงในทุกขั้นตอน เพื่อให้กระบวนการ IPO สำเร็จอย่างราบรื่น โปร่งใส และเป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดทุน ทีมที่ปรึกษาหลักๆ ประกอบด้วย 5 กลุ่ม ดังนี้

  1. Financial Advisor (FA)
    ผู้วางแผนกลยุทธ์และวางโครงสร้างการเสนอขายหุ้น โดยจะช่วยตรวจสอบความพร้อมของบริษัทในทุกมิติ ทั้งด้านการเงิน การบริหารจัดการ และการดำเนินธุรกิจ รวมถึงช่วยจัดทำเอกสาร Filing เพื่อยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต.

  2. Legal Counsel
    ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ทำหน้าที่ตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงทางกฎหมายต่างๆ ทั้งสัญญา การดำเนินธุรกิจ และข้อกำหนดตามกฎหมายตลาดทุน เพื่อให้บริษัทมีความพร้อมและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างถูกต้อง

  3. Auditor
    ผู้สอบบัญชีและรับรองงบการเงิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทางการเงินและแสดงความเห็นที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและหน่วยงานกำกับดูแล

  4. Underwriter / Investment Bank
    ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่จะช่วยวางแผนและดำเนินการขายหุ้นของบริษัทให้แก่ประชาชนทั่วไป เป็นตัวกลางสำคัญระหว่างบริษัทกับนักลงทุนในตลาดทุน และช่วยระดมทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

  5. PR/IR (Investor Relations) (Optional)

    • PR ทำหน้าที่ดูแลภาพลักษณ์และการสื่อสารของบริษัทในช่วงก่อนและหลัง IPO เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความสนใจจากตลาด

    • IR รับผิดชอบในการเตรียมระบบและเนื้อหาเพื่อนำเสนอข้อมูลที่สำคัญแก่ผู้ลงทุน เพื่อสร้างความเข้าใจและความมั่นใจในธุรกิจของบริษัท

  6. IT Consultant
    ที่ปรึกษาด้าน IT ช่วยวางแผนและให้คำแนะนำการใช้เครื่องมือและผู้ให้บริการที่เหมาะสม ให้ตอบโจทย์ครบทุกด้าน เพื่อสอดคล้องกับข้อกำหนดของ SET หรือความคาดหวังของนักลงทุนในอนาคต ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จ

บทบาทของ Digital Transformation ที่ต้องมุ่งเน้น

แม้ข้อกำหนดที่กล่าวมาจะเน้นเรื่องข้อกฎหมาย โครงสร้างและการเงินเป็นหลัก แต่สิ่งที่เป็นเบื้องหลังทั้งหมดก็คือ การมีระบบรองรับที่ดีเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าองค์กรมีระบบที่พร้อมโตและโปร่งใสจนสามารถอยู่ในตลาดทุนได้อย่างยั่งยืน และนั่นคือบทบาทของ Digital Transformation เพราะในวันที่บริษัทเข้าตลาดสำเร็จไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการขายหุ้น แต่เป็นเรื่องของการเปิดให้ตลาดเห็น ดังนั้น Digital Transformation คือกุญแจสำคัญอีกอย่างสำหรับผู้ที่เตรียมความพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น

01 การรวมศูนย์การบริหารงาน (Control System)

การมีระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) ช่วยให้องค์กรบริหารงานด้านบัญชี การเงิน สินค้าคงคลัง และบุคลากรอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงข้อมูลจากทุกแผนกเข้าด้วยกัน ช่วยลดงานซ้ำซ้อนและเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์งบการเงิน

02 การควบคุมภายใน (Internal Control Automation)

การไม่มีระบบควบคุมภายในที่ชัดเจนทำให้เกิดช่องว่างอาจเกิดความผิดพลาดหรือการทุจริต การมีระบบที่ควบคุมขั้นตอนอนุมัติ ลดความเสี่ยงจาก Human Error และ เป็นหลักฐานสำคัญในการตรวจสอบ

03 Document Workflow

การจัดเก็บเอกสารที่ดีต้องไม่อยู่ในแฟ้มงาน แต่ควรอยู่ในระบบที่มีความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูล โดยไม่อนุญาตให้แก้ไขธุรกรรมย้อนหลังได้ เช่น ใบแจ้งหนี้ บันทึกการประชุม ซึ่งเป็นสิ่งที่สำนักงาน กลต. ให้ความสำคัญ

04 การกำกับดูแลข้อมูล (Data Governance)

การมีข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนคู่กับระบบที่ดีช่วยจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์และแสดงผลแบบเรียลไทม์ ลดการพึ่งพา Excel และคนกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเชื่อมต่อระบบเข้าด้วยกัน หรือมีระบบที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือผู้ใช้งาน จำเป็นต้องมีแนวทางปฏิบัติที่เข้มงวดเกี่ยวกับการบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) รวมถึงการกำหนดอย่างชัดเจนว่าใครสามารถเข้าถึงและดึงข้อมูลเหล่านั้นได้ ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง

05 ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปฏิบัติตามข้อกำหนด (Cyber Security & Compliance)

เมื่อองค์กรเข้าสู่ตลาดทุน ข้อมูลจำนวนมากจะไหลเวียนอยู่ในระบบ ตั้งแต่ข้อมูลลูกค้า ไปจนถึงข้อมูลด้านการเงิน การมีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ถือเป็นเงื่อนไขพื้นฐานขององค์กรที่นักลงทุนไว้วางใจ ระบบที่ดีควรดำเนินงานอยู่บนคลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก อย่างไรก็ตามหากใช้เซิร์ฟเวอร์ขององค์กรเอง ต้องมีมาตรการด้านไอทีที่เข้มงวด กำหนดอย่างชัดเจนว่าใครสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ เมื่อใด และด้วยวิธีใด

ดังนั้น สำหรับการเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ กระบวนการ Digital Transformation จึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ช่วยให้องค์กรจัดการข้อมูลจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการพึ่งพาการใช้คน ลดความผิดพลาดจากการจัดเก็บเอกสารหรือข้อมูลที่กระจัดกระจาย และเพิ่มความเร็วในการตอบสนองต่อนักลงทุน

บทบาทของ Digital Transformation ที่ต้องมุ่งเน้น

แม้ข้อกำหนดที่กล่าวมาจะเน้นเรื่องข้อกฎหมาย โครงสร้างและการเงินเป็นหลัก แต่สิ่งที่เป็นเบื้องหลังทั้งหมดก็คือ การมีระบบรองรับที่ดีเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าองค์กรมีระบบที่พร้อมโตและโปร่งใสจนสามารถอยู่ในตลาดทุนได้อย่างยั่งยืน และนั่นคือบทบาทของ Digital Transformation เพราะในวันที่บริษัทเข้าตลาดสำเร็จไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการขายหุ้น แต่เป็นเรื่องของการเปิดให้ตลาดเห็น ดังนั้น Digital Transformation คือกุญแจสำคัญอีกอย่างสำหรับผู้ที่เตรียมความพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น

01 การรวมศูนย์การบริหารงาน (Control System)

การมีระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) ช่วยให้องค์กรบริหารงานด้านบัญชี การเงิน สินค้าคงคลัง และบุคลากรอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงข้อมูลจากทุกแผนกเข้าด้วยกัน ช่วยลดงานซ้ำซ้อนและเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์งบการเงิน

02 การควบคุมภายใน (Internal Control Automation)

การไม่มีระบบควบคุมภายในที่ชัดเจนทำให้เกิดช่องว่างอาจเกิดความผิดพลาดหรือการทุจริต การมีระบบที่ควบคุมขั้นตอนอนุมัติ ลดความเสี่ยงจาก Human Error และ เป็นหลักฐานสำคัญในการตรวจสอบ

03 Document Workflow

การจัดเก็บเอกสารที่ดีต้องไม่อยู่ในแฟ้มงาน แต่ควรอยู่ในระบบที่มีความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูล โดยไม่อนุญาตให้แก้ไขธุรกรรมย้อนหลังได้ เช่น ใบแจ้งหนี้ บันทึกการประชุม ซึ่งเป็นสิ่งที่สำนักงาน กลต. ให้ความสำคัญ

04 การกำกับดูแลข้อมูล (Data Governance)

การมีข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนคู่กับระบบที่ดีช่วยจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์และแสดงผลแบบเรียลไทม์ ลดการพึ่งพา Excel และคนกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเชื่อมต่อระบบเข้าด้วยกัน หรือมีระบบที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือผู้ใช้งาน จำเป็นต้องมีแนวทางปฏิบัติที่เข้มงวดเกี่ยวกับการบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) รวมถึงการกำหนดอย่างชัดเจนว่าใครสามารถเข้าถึงและดึงข้อมูลเหล่านั้นได้ ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง

05 ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปฏิบัติตามข้อกำหนด (Cyber Security & Compliance)

เมื่อองค์กรเข้าสู่ตลาดทุน ข้อมูลจำนวนมากจะไหลเวียนอยู่ในระบบ ตั้งแต่ข้อมูลลูกค้า ไปจนถึงข้อมูลด้านการเงิน การมีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ถือเป็นเงื่อนไขพื้นฐานขององค์กรที่นักลงทุนไว้วางใจ ระบบที่ดีควรดำเนินงานอยู่บนคลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก อย่างไรก็ตามหากใช้เซิร์ฟเวอร์ขององค์กรเอง ต้องมีมาตรการด้านไอทีที่เข้มงวด กำหนดอย่างชัดเจนว่าใครสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ เมื่อใด และด้วยวิธีใด

ดังนั้น สำหรับการเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ กระบวนการ Digital Transformation จึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ช่วยให้องค์กรจัดการข้อมูลจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการพึ่งพาการใช้คน ลดความผิดพลาดจากการจัดเก็บเอกสารหรือข้อมูลที่กระจัดกระจาย และเพิ่มความเร็วในการตอบสนองต่อนักลงทุน

สรุป

องค์กรที่มีระบบรองรับการทำงานทั้งหมดขององค์กรจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุนได้มากกว่า ในทางกลับกันองค์กรที่ยังพึ่งพาระบบ Manual ไม่มีโครงสร้างชัดเจนมักต้องใช้เวลานานในการเตรียมตัว อาจพบปัญหาซ้ำซ้อนจากความผิดพลาดด้านเอกสาร ขาดระบบควบคุม 

ดังนั้นหากองค์กรใดมีแผนในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 1-3 ปี ข้างหน้า การเริ่มต้นวางแผน Digital Transformation ตั้งแต่วันนี้ จะช่วยลดต้นทุนในระยะยาว เพิ่มความพร้อมเชิงระบบ และเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตานักลงทุนได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้สามารถดำเนินการทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเริ่มต้นด้วยเครื่องมือและผู้ให้บริการที่สามารถตอบโจทย์ ถือเป็นกุญแจสำคัญ

DX ไม่ใช่เพียงเครื่องมือเสริม แต่คือโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องมี หากองค์กรต้องการเข้าสู่ตลาดทุนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ASAP Project เป็นที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ที่จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจด้วยเทคโนโลยี

#IPOReadiness

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.