รีวิว PAM: CDP ตัวจริงของไทยเพื่อนักการตลาดตัวจริง

ในยุคนี้ที่ Martech กำลังเป็นที่รู้จัก ทุกคนคงจะเคยได้ยินคำว่า "CDP" กันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ใช่มั้ยละครับ
แต่นอกจากผู้ให้บริการ CDP จากต่างประเทศแล้ว CDP ของไทยเองก็เก่งไม่แพ้กันนะครับ


วันนี้ ASAP Project อยากจะชวนทุกท่านมารู้จักกับหนึ่งใน Real CDP ของคนไทยให้ทุกท่านได้รู้จักกับ “10 จุดเด่นของ PAM Real CDP for Real Marketer” ระบบ CDP เพื่อนักตลาดตัวจริงกันครับ

TYPE

Solution Review

TOOL

Customer Data Platform (CDP)

เข้าใจ "Real CDP"

ก่อนที่เราจะมาดูฟีเจอร์เด่นของ PAM เรามาทำความเข้าใจกับนิยามของ "Real CDP" กันก่อนนะครับ

CDP ที่แท้จริงควรจะมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นฐานที่รวบรวมข้อมูลจากทุกช่องทาง

  • สามารถระบุและเก็บทุกรายละเอียดของข้อมูลลูกค้าได้

  • สามารถเห็นพฤติกรรมลูกค้าได้แบบ 360 องศา ว่ามีปฏิสัมพันธ์กับเราผ่านช่องทางไหนบ้าง

  • และสุดท้าย ข้อมูลทุกอย่างควรจะต้อง Real-time สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้อย่าง Seamless

เอาล่ะครับ เมื่อเราเข้าใจนิยามของ Real CDP กันแล้ว มาดู 10 จุดเด่นของ PAM กันเลยครับ

01 รวบรวมข้อมูลได้จากหลายช่องทาง

PAM สามารถรวมข้อมูลได้จากหลายช่องทาง และหลากหลายเทคนิควิธี ไม่ว่าจะเป็น Email, เบอร์โทรศัพท์, Facebook Line, หรือจะเป็น Website และ Application ของ Brand ก็สามารถทำได้ผ่าน API Webhook หรือ AppPush

เมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะแสดงไอคอนของช่องทางนั้นๆ เป็นสีเขียว บนหน้าประวัติของลูกค้า และยังสามารถตั้งค่าว่าจะใช้ Customer ID หลักเป็นอะไร เช่น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ หรือข้อมูลอื่นๆ ได้อีกด้วย

การเชื่อมต่อข้อมูลเข้ามายัง PAM จะทำให้เราเห็นข้อมูลของลูกค้าได้แบบครบถ้วน ซึ่ง PAM จะแยกออกมาเป็น 4 ส่วนด้วยกันคือ

  • Timeline ที่แสดงกิจกรรมต่างๆที่มีอินเทอแรคชั่นกัน เข้ามาดูสินค้า เข้ามาซื้อของผ่านช่องทางใด

  • Demographic Information ที่จะเก็บข้อมูลต่างๆเช่น เพศ อายุ อาชีพ ความสนใจ หรือข้อมูลอื่นๆที่เราได้รับมา

  • Consent ว่าลูกค้าได้มีการให้ Consent เราไว้หรือไม่ ให้ในช่องทางใดบ้าง

  • Insight ที่จะสรุปข้อมูลสำคัญๆเอาไว้ อย่าง Customer Lifetime value, purchase history, touchpoint ซึ่งก็สามารถปรับแต่งให้แสดง Insight ที่อยากจะมองเห็นเพิ่มเติมได้เช่นกัน

01 รวบรวมข้อมูลได้จากหลายช่องทาง

PAM สามารถรวมข้อมูลได้จากหลายช่องทาง และหลากหลายเทคนิควิธี ไม่ว่าจะเป็น Email, เบอร์โทรศัพท์, Facebook Line, หรือจะเป็น Website และ Application ของ Brand ก็สามารถทำได้ผ่าน API Webhook หรือ AppPush

เมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะแสดงไอคอนของช่องทางนั้นๆ เป็นสีเขียว บนหน้าประวัติของลูกค้า และยังสามารถตั้งค่าว่าจะใช้ Customer ID หลักเป็นอะไร เช่น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ หรือข้อมูลอื่นๆ ได้อีกด้วย

การเชื่อมต่อข้อมูลเข้ามายัง PAM จะทำให้เราเห็นข้อมูลของลูกค้าได้แบบครบถ้วน ซึ่ง PAM จะแยกออกมาเป็น 4 ส่วนด้วยกันคือ

  • Timeline ที่แสดงกิจกรรมต่างๆที่มีอินเทอแรคชั่นกัน เข้ามาดูสินค้า เข้ามาซื้อของผ่านช่องทางใด

  • Demographic Information ที่จะเก็บข้อมูลต่างๆเช่น เพศ อายุ อาชีพ ความสนใจ หรือข้อมูลอื่นๆที่เราได้รับมา

  • Consent ว่าลูกค้าได้มีการให้ Consent เราไว้หรือไม่ ให้ในช่องทางใดบ้าง

  • Insight ที่จะสรุปข้อมูลสำคัญๆเอาไว้ อย่าง Customer Lifetime value, purchase history, touchpoint ซึ่งก็สามารถปรับแต่งให้แสดง Insight ที่อยากจะมองเห็นเพิ่มเติมได้เช่นกัน

02 สร้าง Database สำหรับแบรนด์ย่อยได้ไม่จำกัด

PAM เหมาะมากสำหรับบริษัทที่มี Brand สินค้าภายใต้ Umbrella เพราะ PAM สามารถช่วยให้คุณสร้าง Database ย่อยๆ สำหรับแต่ละแบรนด์ได้ไม่จำกัด ซึ่งในแต่ละ Database ก็สามารถแยก Permission ของผู้ดูแลระบบตามแบรนด์ได้

นอกจากนั้น ยังสามารถหา Common Profile ข้ามแบรนด์ย่อยเหล่านี้ เพื่อทำ Co-campaing หรือ Upsales Cross-sales ระหว่างแบรนด์ในเครือได้แบบไม่ยากอีกด้วย

02 สร้าง Database สำหรับแบรนด์ย่อยได้ไม่จำกัด

PAM เหมาะมากสำหรับบริษัทที่มี Brand สินค้าภายใต้ Umbrella เพราะ PAM สามารถช่วยให้คุณสร้าง Database ย่อยๆ สำหรับแต่ละแบรนด์ได้ไม่จำกัด ซึ่งในแต่ละ Database ก็สามารถแยก Permission ของผู้ดูแลระบบตามแบรนด์ได้

นอกจากนั้น ยังสามารถหา Common Profile ข้ามแบรนด์ย่อยเหล่านี้ เพื่อทำ Co-campaing หรือ Upsales Cross-sales ระหว่างแบรนด์ในเครือได้แบบไม่ยากอีกด้วย

03 สร้าง Personalized Campaign ได้ตามใจ

PAM สามารถจัดการ Personalized Campaign ได้ตามทั้งช่องทางการสื่อสาร และ กลุ่มลูกค้าต่างๆ
ได้โดยสามารถเลือกเงื่อนไขต่างๆ ได้เช่น

  • วันเวลาที่ต้องการส่ง

  • เลือกได้ว่าจะเป็น one-time หรือ recurring campaign เช่น จะส่งทุกวันพุธ ทุกสิ้นเดือน หรือ ส่งซ้ำกี่ครั้ง

  • ฐานข้อมูลลูกค้าที่ต้องการจะส่งแคมเปญไป

  • เลือกกรองเฉพาะลูกค้าที่ให้ Consent แบบทุกเวอร์ชันหรือเฉพาะบางเวอร์ชัน

  • และเลือกช่องทางที่ต้องการจะส่งไป ตัวอย่างเช่น ถ้าเลือกช่องทาง LINE ก็สามารถส่งข้อความไปได้สูงสุดถึง 5 Bubbles ด้วยกัน พร้อมส่งภาพ วีดีโอ Image Map, Image Corousel, หรือแบบ Flex JSON ได้อีกด้วย

03 สร้าง Personalized Campaign ได้ตามใจ

PAM สามารถจัดการ Personalized Campaign ได้ตามทั้งช่องทางการสื่อสาร และ กลุ่มลูกค้าต่างๆ
ได้โดยสามารถเลือกเงื่อนไขต่างๆ ได้เช่น

  • วันเวลาที่ต้องการส่ง

  • เลือกได้ว่าจะเป็น one-time หรือ recurring campaign เช่น จะส่งทุกวันพุธ ทุกสิ้นเดือน หรือ ส่งซ้ำกี่ครั้ง

  • ฐานข้อมูลลูกค้าที่ต้องการจะส่งแคมเปญไป

  • เลือกกรองเฉพาะลูกค้าที่ให้ Consent แบบทุกเวอร์ชันหรือเฉพาะบางเวอร์ชัน

  • และเลือกช่องทางที่ต้องการจะส่งไป ตัวอย่างเช่น ถ้าเลือกช่องทาง LINE ก็สามารถส่งข้อความไปได้สูงสุดถึง 5 Bubbles ด้วยกัน พร้อมส่งภาพ วีดีโอ Image Map, Image Corousel, หรือแบบ Flex JSON ได้อีกด้วย

04 สร้าง Segment แบ่งกลุ่มลูกค้าได้อย่างอิสระ

ต่อจากการสร้าง Campaign และ Message PAM ช่วยให้สามารถสร้าง Segment ของลูกค้าได้อย่างละเอียดมาก โดยสามารถสร้างกำหนด Segment ด้วย Parameter และเงื่อนไขต่างๆมากมาย เช่น

  • ข้อมูลเชิง Demographic เพศ อายุ อาชีพ ความสนใจต่างๆ

  • ตรงหรือไม่ตรงกับt event หรือ กิจกรรมที่กำหนด

  • กรอง Segment เพื่อที่จะจับกลุ่มลูกค้าที่หายไปนาน เช่น

    • ดูตามลูกค้ากลุ่มซื้อซ้ำบ่อยที่สุด

    • กลุ่ม High Spender

    • กลุ่มชอบหรือไม่ชอบสินค้าแบบไหน เป็นต้นหรือ

ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการนำเสนอ Airpod ให้กับลูกค้า ก็สามารถเลือกกลุ่มลูกค้าที่เคยซื้อ iPhone แต่ยกเว้นไว้ว่ายังไม่เคยซื้อ airpod เพื่อที่จะได้ไม่สร้างความรำคาญให้ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วได้

นอกจากนี้ PAM ยังมีหน้า Insight ของแต่ละ Segment ให้เราได้เข้าไปดูความเคลื่อนไหวของข้อมูลต่างๆได้ และยังสามารถ Export ข้อมูลออกไปทำงานต่อข้างนอก โดยสามารถระบุชื่อ User ที่ทำการ Export ข้อมูลออกไปได้เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลได้อีกด้วย

04 สร้าง Segment แบ่งกลุ่มลูกค้าได้อย่างอิสระ

ต่อจากการสร้าง Campaign และ Message PAM ช่วยให้สามารถสร้าง Segment ของลูกค้าได้อย่างละเอียดมาก โดยสามารถสร้างกำหนด Segment ด้วย Parameter และเงื่อนไขต่างๆมากมาย เช่น

  • ข้อมูลเชิง Demographic เพศ อายุ อาชีพ ความสนใจต่างๆ

  • ตรงหรือไม่ตรงกับt event หรือ กิจกรรมที่กำหนด

  • กรอง Segment เพื่อที่จะจับกลุ่มลูกค้าที่หายไปนาน เช่น

    • ดูตามลูกค้ากลุ่มซื้อซ้ำบ่อยที่สุด

    • กลุ่ม High Spender

    • กลุ่มชอบหรือไม่ชอบสินค้าแบบไหน เป็นต้นหรือ

ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการนำเสนอ Airpod ให้กับลูกค้า ก็สามารถเลือกกลุ่มลูกค้าที่เคยซื้อ iPhone แต่ยกเว้นไว้ว่ายังไม่เคยซื้อ airpod เพื่อที่จะได้ไม่สร้างความรำคาญให้ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วได้

นอกจากนี้ PAM ยังมีหน้า Insight ของแต่ละ Segment ให้เราได้เข้าไปดูความเคลื่อนไหวของข้อมูลต่างๆได้ และยังสามารถ Export ข้อมูลออกไปทำงานต่อข้างนอก โดยสามารถระบุชื่อ User ที่ทำการ Export ข้อมูลออกไปได้เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลได้อีกด้วย

05 ดึงและจัดการข้อมูลจาก Google sheet ได้ง่ายมาก

นอกจากการเชื่อมต่อกับช่องทางต่างๆแล้ว PAM ยังถูกออกแบบมาให้สามารถดึงข้อมูลจากเครื่องมือพื้นฐานอย่าง Google sheet ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะ Batch file หรือ Export มาวางแบบ Manual เพียงแค่เอา URL ของ Google sheet พร้อม Gen Access Token มาใส่ไว้ใน PAM เท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้า Data บน Sheet ยังไม่เรียบร้อยดี ก็ยังสามารถ

  • Clean Data

  • ปรับรูปแบบของวันที่

  • เพิ่ม Tag เพิ่ม Column

  • ตั้งค่าความถี่และเวลาในการดึงข้อมูล เป็นต้น

เมื่อเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะแสดงที่มาของข้อมูล พร้อมทั้งสามารถพรีวิวคอลัมน์ทั้งหลายออกมาให้ดูด้วย

ไม่ต้องกลัวเรื่องข้อจำกัดของระบบเดิมที่ใช้งานอยู่หาก API ไม่ได้ PAM ก็ยังเชื่อมต่อได้!

05 ดึงและจัดการข้อมูลจาก Google sheet ได้ง่ายมาก

นอกจากการเชื่อมต่อกับช่องทางต่างๆแล้ว PAM ยังถูกออกแบบมาให้สามารถดึงข้อมูลจากเครื่องมือพื้นฐานอย่าง Google sheet ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะ Batch file หรือ Export มาวางแบบ Manual เพียงแค่เอา URL ของ Google sheet พร้อม Gen Access Token มาใส่ไว้ใน PAM เท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้า Data บน Sheet ยังไม่เรียบร้อยดี ก็ยังสามารถ

  • Clean Data

  • ปรับรูปแบบของวันที่

  • เพิ่ม Tag เพิ่ม Column

  • ตั้งค่าความถี่และเวลาในการดึงข้อมูล เป็นต้น

เมื่อเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะแสดงที่มาของข้อมูล พร้อมทั้งสามารถพรีวิวคอลัมน์ทั้งหลายออกมาให้ดูด้วย

ไม่ต้องกลัวเรื่องข้อจำกัดของระบบเดิมที่ใช้งานอยู่หาก API ไม่ได้ PAM ก็ยังเชื่อมต่อได้!

06 สร้าง Customer Journey ได้อย่างยืดหยุ่น

การสร้าง Customer Journey ใน PAM ทำได้อย่างยืดหยุ่น โดยสามารถกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ได้ว่าจะติดต่อไปหาลูกค้ากลุ่มใด เมื่อไหร่ ผ่านช่องทางใด ด้วยข้อความแบบใด

และสามารถ Trigger ให้เริ่ม Journey ได้จาก

  • Event คือเมื่อลูกค้าทำสิ่งนี้ ให้พาเข้ามาใน Journey

  • หรือ Customer Segment

จากนั้น ก็กำหนดเงื่อนไขที่ต้องการ เช่น

  • เมื่อลูกค้านำสินค้าใส่ตะกร้าแล้ว ให้รอนานแค่ไหน ก่อนที่ระบบจะแจ้งเตือนไป แล้วให้รออีกนานแค่ไหน ค่อยติดตามไปอีกรอบ เป็นต้น

  • และไม่ต้องกลัวสร้างความรำคาญให้กับลูกค้า เพราะสามารถกำหนด Goal ได้เพิ่มด้วยว่า ถ้าลูกค้าทำสิ่งนี้แล้ว เช่น ซื้อสินค้าตัวนี้แล้ว ให้พาออกจาก Jouney นี้ได้เลย ลูกค้าจะได้ไม่ต้องเจอข้อเสนอเดิมอีกซ้ำๆ

06 สร้าง Customer Journey ได้อย่างยืดหยุ่น

การสร้าง Customer Journey ใน PAM ทำได้อย่างยืดหยุ่น โดยสามารถกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ได้ว่าจะติดต่อไปหาลูกค้ากลุ่มใด เมื่อไหร่ ผ่านช่องทางใด ด้วยข้อความแบบใด

และสามารถ Trigger ให้เริ่ม Journey ได้จาก

  • Event คือเมื่อลูกค้าทำสิ่งนี้ ให้พาเข้ามาใน Journey

  • หรือ Customer Segment

จากนั้น ก็กำหนดเงื่อนไขที่ต้องการ เช่น

  • เมื่อลูกค้านำสินค้าใส่ตะกร้าแล้ว ให้รอนานแค่ไหน ก่อนที่ระบบจะแจ้งเตือนไป แล้วให้รออีกนานแค่ไหน ค่อยติดตามไปอีกรอบ เป็นต้น

  • และไม่ต้องกลัวสร้างความรำคาญให้กับลูกค้า เพราะสามารถกำหนด Goal ได้เพิ่มด้วยว่า ถ้าลูกค้าทำสิ่งนี้แล้ว เช่น ซื้อสินค้าตัวนี้แล้ว ให้พาออกจาก Jouney นี้ได้เลย ลูกค้าจะได้ไม่ต้องเจอข้อเสนอเดิมอีกซ้ำๆ

07 ล้ำขึ้นไปอีกกับ Customer Journey แบบ Advance

การวาง Customer Journey ใน PAM ยังทำได้ Advance ขึ้นไปอีก เช่น

  • การทำ AB Testing
    โดย ตั้งให้ระบบดึงตัวอย่างลูกค้ามาส่วนหนึ่งมาทดลองก่อน (เช่น 10% แรก) มาทำ AB Testing พร้อมตั้งเวลา ว่าจะทำการ Test นานแค่ไหน (เช่น 24 ชั่วโมง) และเมื่อผลลัพธ์ออกมา ระบบก็จะจัดการใช้กลยุทธ์ที่ดีกว่า ในการสื่อสารกับอีก 90% ที่เหลือ

  • การทำ Multiple Product Campaign
    ในกรณีที่ลูกค้าสนใจสินค้าและบริการของคุณมากกว่าหนึ่งตัว ก็สามารถช่วยนำเสนอสินค้าเหล่านั้นผ่านการสร้าง Customer Journey ชุดเดียวได้เลย

07 ล้ำขึ้นไปอีกกับ Customer Journey แบบ Advance

การวาง Customer Journey ใน PAM ยังทำได้ Advance ขึ้นไปอีก เช่น

  • การทำ AB Testing
    โดย ตั้งให้ระบบดึงตัวอย่างลูกค้ามาส่วนหนึ่งมาทดลองก่อน (เช่น 10% แรก) มาทำ AB Testing พร้อมตั้งเวลา ว่าจะทำการ Test นานแค่ไหน (เช่น 24 ชั่วโมง) และเมื่อผลลัพธ์ออกมา ระบบก็จะจัดการใช้กลยุทธ์ที่ดีกว่า ในการสื่อสารกับอีก 90% ที่เหลือ

  • การทำ Multiple Product Campaign
    ในกรณีที่ลูกค้าสนใจสินค้าและบริการของคุณมากกว่าหนึ่งตัว ก็สามารถช่วยนำเสนอสินค้าเหล่านั้นผ่านการสร้าง Customer Journey ชุดเดียวได้เลย

08 มี Task View ตรวจสอบสถานะการอัพเดทของข้อมูลจากแหล่งที่มาต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ

PAM มีหน้า Task View เพื่อติดตามสถานะการอัพเดทของ Data ที่ไหลเข้ามาได้ตลอดเวลาว่าเป็นสถานะ Running หรือ Completed โดยดูตาม Data Source

ซึ่งเหมาะมากๆ กับธุรกิจที่มีหลายช่องทาง หลายเว็ปไซต์ หรือหลายสาขา ที่อาจมีเวลาเปิดปิด และส่งข้อมูลไม่เท่ากัน

08 มี Task View ตรวจสอบสถานะการอัพเดทของข้อมูลจากแหล่งที่มาต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ

PAM มีหน้า Task View เพื่อติดตามสถานะการอัพเดทของ Data ที่ไหลเข้ามาได้ตลอดเวลาว่าเป็นสถานะ Running หรือ Completed โดยดูตาม Data Source

ซึ่งเหมาะมากๆ กับธุรกิจที่มีหลายช่องทาง หลายเว็ปไซต์ หรือหลายสาขา ที่อาจมีเวลาเปิดปิด และส่งข้อมูลไม่เท่ากัน

09 สร้าง Affiliate link พร้อมวัดผลได้ในตัวเอง

สามารถสร้าง Affiliate Link หรือ Link shortener ได้ภายในระบบเลย ไม่ต้องไปทำการ Shorten link ข้างนอก เมื่อลูกค้ากดลิงค์ดังกล่าว ข้อมูลก็จะวิ่งกลับมารวมกันที่ PAM พร้อมยังสามารถวิเคราะห์ผลได้แบบ real-time

เหมาะกับธุรกิจที่อาศัย Influencer ในการทำการตลาดและต้องการจะวัด Performance ของ Campaign


09 สร้าง Affiliate link พร้อมวัดผลได้ในตัวเอง

สามารถสร้าง Affiliate Link หรือ Link shortener ได้ภายในระบบเลย ไม่ต้องไปทำการ Shorten link ข้างนอก เมื่อลูกค้ากดลิงค์ดังกล่าว ข้อมูลก็จะวิ่งกลับมารวมกันที่ PAM พร้อมยังสามารถวิเคราะห์ผลได้แบบ real-time

เหมาะกับธุรกิจที่อาศัย Influencer ในการทำการตลาดและต้องการจะวัด Performance ของ Campaign


10 เลือกสร้าง Widget บน Dashboard ได้

รายงานของ PAM มี Parameter ให้เลือกดึงข้อมูลได้จำนวนมาก โดยสามารถดึงข้อมูล Event ไปสร้างรายงานแล้วใช้เงื่อนไขต่างๆในการกรอง หรือนับจำนวนของ Parameter ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

รายงานสามารถแสดงผลเป็นกราฟได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กราฟแท่งแนวตั้ง แนวนอน Line Chart และ Pie Chart หรือจะเป็นกราฟแบบผสม

นอกจากนี้ PAM ยังสามารถออก Analytic Report ได้ ซึ่งจะเป็นการนำข้อมูลจากหลายๆส่วนมาวิเคราะห์รวมกัน เช่น

  • Customer Lifetime Value

  • Cohort Chart ที่แสดง Re-purchasing rate ในแต่ละเดือน (ว่ามีลูกค้าในกลุ่มเดิมที่ย้อนกลับมาซื้อซ้ำในเดือนถัดๆไปมากน้อยเท่าไหร่)

ซึ่งก็จะให้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ที่มีความลึกขึ้นอีกมาก

10 เลือกสร้าง Widget บน Dashboard ได้

รายงานของ PAM มี Parameter ให้เลือกดึงข้อมูลได้จำนวนมาก โดยสามารถดึงข้อมูล Event ไปสร้างรายงานแล้วใช้เงื่อนไขต่างๆในการกรอง หรือนับจำนวนของ Parameter ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

รายงานสามารถแสดงผลเป็นกราฟได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กราฟแท่งแนวตั้ง แนวนอน Line Chart และ Pie Chart หรือจะเป็นกราฟแบบผสม

นอกจากนี้ PAM ยังสามารถออก Analytic Report ได้ ซึ่งจะเป็นการนำข้อมูลจากหลายๆส่วนมาวิเคราะห์รวมกัน เช่น

  • Customer Lifetime Value

  • Cohort Chart ที่แสดง Re-purchasing rate ในแต่ละเดือน (ว่ามีลูกค้าในกลุ่มเดิมที่ย้อนกลับมาซื้อซ้ำในเดือนถัดๆไปมากน้อยเท่าไหร่)

ซึ่งก็จะให้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ที่มีความลึกขึ้นอีกมาก

โมดูลเสริมอื่นๆ

นอกจากนี้ PAM ยังมี Module เสริมอื่นๆ ที่ช่วยให้ Marketer ทำงานได้ครบถ้วนขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบ Coupon Module & Loyalty Program

  • ระบบ Chat Center

  • ระบบ Survey Form

  • ระบบ Recommend AI

โมดูลเสริมอื่นๆ

นอกจากนี้ PAM ยังมี Module เสริมอื่นๆ ที่ช่วยให้ Marketer ทำงานได้ครบถ้วนขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบ Coupon Module & Loyalty Program

  • ระบบ Chat Center

  • ระบบ Survey Form

  • ระบบ Recommend AI

PAM เหมาะกับใคร

PAM เหมาะกับธุรกิจที่

  • มีฐานลูกค้ามากพอสมควร

  • มีการออกแคมเปญเพื่อนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นอย่างสม่ำเสมอ

  • ทำแคมเปญผ่านหลากหลายช่องทาง

  • และมีกลยุทธ์ทางการตลาดและการนำเสนอสินค้าที่ค่อนข้างซับซ้อน

PAM เหมาะกับใคร

PAM เหมาะกับธุรกิจที่

  • มีฐานลูกค้ามากพอสมควร

  • มีการออกแคมเปญเพื่อนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นอย่างสม่ำเสมอ

  • ทำแคมเปญผ่านหลากหลายช่องทาง

  • และมีกลยุทธ์ทางการตลาดและการนำเสนอสินค้าที่ค่อนข้างซับซ้อน

ราคา

ราคาของ PAM เริ่มต้นที่ 25,000 - 45,000 บาท ต่อเดือนต่อฐานข้อมูลลูกค้า 300,000 ราย

PAM มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลตลอด ทั้งแบบ Online และ On-site ตั้งแต่ขั้นตอนการ Implementation การเชื่อมต่อกับช่องทางต่างๆ และการวาง Customer Journey

ด้วย Features และการดูแลที่ดีแบบนี้ PAM จึงได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำไม่ว่าจะเป็น

- Jaymart group
- กรุงเทพประกันชีวิต
- Supalai
- Covermark
- LPN

ราคา

ราคาของ PAM เริ่มต้นที่ 25,000 - 45,000 บาท ต่อเดือนต่อฐานข้อมูลลูกค้า 300,000 ราย

PAM มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลตลอด ทั้งแบบ Online และ On-site ตั้งแต่ขั้นตอนการ Implementation การเชื่อมต่อกับช่องทางต่างๆ และการวาง Customer Journey

ด้วย Features และการดูแลที่ดีแบบนี้ PAM จึงได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำไม่ว่าจะเป็น

- Jaymart group
- กรุงเทพประกันชีวิต
- Supalai
- Covermark
- LPN

📍 ติดต่อ PAM

มาถึงตรงนี้ ทุกท่านน่าจะเข้าใจกันมากขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะครับ ว่าทำไม PAM ถึงเป็น Real CDP สำหรับ Real Marketer

หากใครสนใจ สามารถติดต่อ PAM ทางช่องทางนี้ได้เลยครับ

Website: https://pams.ai/pam-marketing/
Facebook: https://www.facebook.com/PAMmarketingAutomation/
Email: chananya@pams.ai
Tel: 090-9832659 (K. Five)

ASAP Project เป็นที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ที่จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจด้วยเทคโนโลยี

ติดตาม YouTube ของเราเพื่อดูรีวิวเพิ่มเติม

ติดตาม Facebook เพจของเรา

< Previous

Digital Transformation คืออะไร? มาเข้าใจทุกแง่มุมของการทรานส์ฟอร์มองค์กร

< Previous

< Previous

NEXT >

สิ้นเดือนนี้เหล่า HR ต้องรอด ด้วยซอฟแวร์ช่วยทำ Payroll

NEXT >

NEXT >

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.

LET'S TALK

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.

LET'S TALK

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.

LET'S TALK