ใช้ AI อย่างไรให้ธุรกิจครอบครัวเติบโตในยุคดิจิทัล

สำหรับทายาทธุรกิจรุ่นที่สอง การปรับตัวสู่โลกดิจิทัลไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่ยังเป็นโอกาสในการขยายขีดความสามารถของธุรกิจครอบครัวที่มีมายาวนาน หนึ่งในเครื่องมือที่กำลังมาแรงและสามารถนำมาปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือ “AI” ซึ่งวันนี้ ASAP Project จะมาชวนดูกันว่า AI จะเข้ามาช่วยคุณในมุมไหนได้บ้างในธุรกิจครอบครัว

TYPE

ASAP Project X ทำที่บ้าน

การประยุกต์ใช้ AI เข้ามาช่วยธุรกิจทำงาน

01 การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำ

ธุรกิจครอบครัวมักมีข้อมูลสะสมมายาวนาน แต่ปัญหาที่หลายคนเจอคือ "การใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด" AI สามารถนำข้อมูลที่มีอยู่มาวิเคราะห์เชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการขาย พฤติกรรมลูกค้า หรือแนวโน้มตลาด ทำให้คุณสามารถคาดการณ์อนาคตและปรับกลยุทธ์การตลาด การขาย หรือแม้กระทั่งการวางแผนผลิตภัณฑ์ได้อย่างแม่นยำ

💡 ตัวอย่าง: ธุรกิจค้าปลีกสามารถใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เพื่อทำนายแนวโน้มการซื้อในอนาคต ทำให้คุณสามารถเตรียมสต็อกสินค้าได้ตรงกับความต้องการมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันคุณจะเจอฟีเจอร์ AI ที่ให้ข้อมูลในมุมนี้ได้ ในซอฟต์แวร์ประเภท CDP (Customer Data Platform), CRM (Customer Relationship Management), หรือแม้แต่ BI (Business Intelligence)

02 การบริการลูกค้าอัตโนมัติที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง

ในธุรกิจครอบครัวที่ต้องการมอบบริการที่เป็นกันเอง AI สามารถช่วยเสริมประสบการณ์การบริการลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำ Chatbot มาใช้ตอบคำถามเบื้องต้นของลูกค้า หรือช่วยจัดการคำสั่งซื้อ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการดูแลอย่างดี แม้จะติดต่อในเวลาที่พนักงานไม่สามารถตอบได้โดยทันที

นอกจากนี้ AI ยังสามารถเรียนรู้จากคำถามที่ลูกค้าถามบ่อย และปรับปรุงความสามารถในการตอบคำถามให้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจในบริการที่ได้รับและมีความเชื่อมั่นในธุรกิจมากขึ้น

💡 ตัวอย่าง: ธุรกิจสายบริการ เช่น ร้านอาหารหรือโรงแรม สามารถใช้ AI ตอบคำถามเกี่ยวกับเวลาเปิด-ปิด เมนู หรือการจองห้องพักผ่านแชตได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องพึ่งพนักงาน โดยในตลาดไทย มีผู้ให้บริการ #แชตบอต ที่มี AI อยู่หลายราย รวมถึงฟังก์ชันการตอบแชตแบบอัตโนมัตินี้ยังมีอยู่ใน CDP หรือ OMS (Order Management System) บางรายอีกด้วย

03 การจัดการสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภา

การจัดการสินค้าคงคลังอาจเป็นงานที่ท้าทายสำหรับธุรกิจครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีปริมาณสินค้าที่ต้องควบคุมจัดการมากและมีความซับซ้อน AI จะสามารถเข้ามาช่วยทำนายความต้องการสินค้าในอนาคต โดยพิจารณาจากข้อมูลการขายที่ผ่านมาและปัจจัยภายนอก เช่น ฤดูกาลหรือแนวโน้มตลาด ทำให้คุณสามารถเตรียมสต็อกสินค้าได้อย่างเหมาะสม และลดการสูญเสียจากสินค้าค้างสต็อก หรือการสั่งสินค้าที่มากเกินความต้องการ

💡 ตัวอย่าง: ธุรกิจค้าปลีกหรือการผลิตสามารถใช้ AI เพื่อคาดการณ์สินค้าที่จะขายดีในฤดูกาลต่อไป ช่วยให้การจัดสต็อกมีประสิทธิภาพ ลดการขาดสินค้าหรือสินค้าล้นสต็อก โดยฟังก์ชัน AI ที่ให้อินไซด์นี้มักจะอยู่ในระบบ OMS หรือโซลูชัน ERP (Enterprise Resource Planning) ขนาดใหญ่ที่มีการพัฒนาโมเดลการเรียนรู้ของ AI เอาไว้แล้ว (ลองดูตัวอย่างเพิ่มเติม: https://www.youtube.com/watch?v=kayh01bps-I)

04 การตลาดที่เฉพาะเจาะจงและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

AI สามารถช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมและความชอบของลูกค้า ทำให้การทำการตลาดสามารถเจาะจงไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ตรงจุดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมลที่ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มลูกค้า หรือโฆษณาที่เจาะจงไปยังกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสซื้อมากที่สุด

💡 ตัวอย่าง: ธุรกิจแฟชันหรือซื้อมาขายไป สามารถใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเพื่อส่งโปรโมชันหรือข้อเสนอเฉพาะบุคคลผ่านอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย ทำให้เพิ่มโอกาสการขายได้มากขึ้น โดย AI ที่ให้อินไซด์นี้จะอยู่ในโซลูชันอย่าง CDP หรือ CRM ที่มีฟังก์ชัน Marketing Automation อยู่ในตัว และเชื่อมต่อกับช่องทางที่คนไทยนิยมใช้กัน ได้แก่ Line, Instagram, Messenger

05 การปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า

AI ยังช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลการโต้ตอบระหว่างลูกค้ากับธุรกิจ เช่น รีวิว คำถาม คำแนะนำ หรือข้อร้องเรียน เพื่อนำมาปรับปรุงบริการหรือสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการได้มากขึ้น

💡 ตัวอย่าง: ธุรกิจร้านอาหารสามารถใช้ AI วิเคราะห์รีวิวของลูกค้า เพื่อดูว่าเมนูไหนได้รับความนิยม หรือมีข้อแนะนำเรื่องการบริการอย่างไร เพื่อปรับปรุงให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาใช้บริการอีกครั้ง หรือธุรกิจซื้อมาขายไป ที่ขายผ่าน Marketplace ก็อาจจะใช้ AI เพื่อตอบรีวิวอย่างอัตโนมัติได้อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าการนำ AI มาใช้ในธุรกิจครอบครัวนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่โต และเริ่มต้นได้จากการใช้ AI ในส่วนของการขาย การบริการลูกค้า การสื่อสารกับลูกค้า และการวิเคราะห์ข้อมูล เมื่อเริ่มใช้ AI และเริ่มทำให้ทุกคนเห็นว่า AI ไม่ใช่เรื่องที่ยากหรือไกลตัว ช่วยลดเวลาทำงาน และให้มุมมองในการวิเคราะห์ที่แม่นยำขึ้น จะทำให้ทั้งคุณเองและองค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจและมองเห็นศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจครอบครัวในอนาคต

หากคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับ Digital Transformation และงานด้านอื่นๆ สามารถปรึกษา ASAP Project ได้ที่ hello@asapproject.co หรือ www.asapproject.co เพื่อคุยกันเบื้องต้นได้เลย!

#ทำที่บ้าน #digitaltransformation

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.

Feeling overwhelmed?
Let us help you find the right tools.