ก่อนอื่น ASAP Project ขออธิบายก่อนว่า ระบบ CRM นั้น มีอยู่หลากหลายรูปแบบด้วยกัน แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่อาจคุ้นชินกับระบบ CRM แบบ B2C ผ่านการใช้บริการจากหลายๆ แบรนด์ในชีวิตประจำวัน แต่จริงๆ แล้วธุรกิจ B2B เองก็มีระบบ CRM เช่นกัน และมีหลากหลายรูปแบบ ตามแต่จุดประสงค์ในการติดตามความสัมพันธ์ และกิจกรรมต่างๆ ระหว่างธุรกิจของเราและลูกค้า เช่นเดียวกับธุรกิจ B2C ซึ่งเราจะรู้จักกันในชื่อของ “CRM for B2B” หรือ “Sales CRM”CRM for B2B สามารถทำอะไรได้บ้าง เรามาดูความสามารถโดยทั่วไปกัน

📍 แล้วคุณคิดว่าการทำระบบ CRM เป็นเรื่องสำหรับธุรกิจ B2C และทำได้แค่การสะสมแต้มแลกรางวัลเท่านั้นหรือเปล่า?

• เก็บฐานข้อมูลผู้สนใจและโอกาสการทางขาย โดยบันทึกทั้งบริษัทและผู้ติดต่อต่างๆ ภายใต้บริษัทนั้นๆ

• ติดตามกระบวนการขายของฝ่ายขาย ไม่ว่าขั้นตอนการขาย หรือ Sales Pipeline จะยาวหรือสั้นแค่ไหน ก็สามารถติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้

• วิเคราะห์ Conversion Rate หรือ อัตราการปิดการขาย ว่าเราสามารถปิดการขายลูกค้าได้กี่ราย จากผู้สนใจที่ติดต่อเข้ามาทั้งหมด

• เช็กอิน ณ สถานที่ลูกค้า กรณีมีการไปเยี่ยมลูกค้าหรือนัดพบ

• ออกใบเสนอราคาและเอกสารการขายได้

• รองรับกระบวนการขออนุมัติทางการขายต่างๆ เช่น การออกใบเสนอราคา หรือการขออนุมัติ ส่วนลดต่างๆ

• ให้รายงานวิเคราะห์ Performance การขายตามมิติต่างๆ เช่น รายพนักงานขาย รายเขตการขาย รายช่องทางการขาย

มาถึงตรงนี้ ทุกคนน่าจะพอเข้าใจคุณสมบัติของ CRM for B2B กันมากขึ้นแล้ว แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ธุรกิจ B2B อย่างเราควรจะเริ่มมองหา CRM มาใช้งานแล้วหรือยัง