การเปลี่ยนแปลงองค์กร ควรเริ่มจากข้างบนลงล่าง หรือข้างล่างขึ้นบน?
คำถามนี้ยังคงเป็นประเด็นสำคัญสำหรับคนที่อยู่ในช่วงผลักดัน Digital Transformation ในองค์กรของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารที่ต้องการเร่งเครื่อง หรือหัวหน้างานที่กำลังหาวิธีเปลี่ยนระบบเดิมๆ
แล้วจะทำอย่างไรให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริง และทุกคนในทีมร่วมมือโดยไม่ฝืนใจ?
ในบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจโมเดลการเปลี่ยนแปลง 2 แบบใหญ่ — Top down และ Bottom up — พร้อมวิเคราะห์ให้เห็นว่า แบบไหนเหมาะกับแต่ละขั้นตอนของ Digital Transformation และจะทำอย่างไร หากคุณอยู่ในธุรกิจที่ “Top down” ไม่ขยับเลย
TYPE
ASAP Project X ทำที่บ้าน
Top Down vs Bottom Up คืออะไร?
ก่อนจะลงลึกในเรื่องกลยุทธ์ มาทำความเข้าใจความหมายของสองคำนี้กันก่อนแบบสั้นๆ
Top down: แนวทางที่การตัดสินใจและการผลักดันเปลี่ยนแปลงมาจากผู้บริหารระดับสูง แล้วไล่ระดับคำสั่งลงมายังทีมปฏิบัติการ
Bottom up: การขับเคลื่อนที่เริ่มจากพนักงานหรือหัวหน้างานที่เห็นปัญหาหน้างานจริง และเสนอแนวทางใหม่ขึ้นไปให้ผู้บริหารพิจารณา
✅ข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละแนวทางเป็นอย่างไร?
Top down
ข้อดี: มีอำนาจตัดสินใจเร็ว, จัดสรรทรัพยากรง่าย, มีน้ำหนักที่องค์กรจะเดินหน้าไปในแนวทางเดียวกัน
ข้อเสีย: ผู้มีอำนาจอาจไม่เข้าใจปัญหาหน้างานจริง, เสียงต่อการต่อต้านจากทีมงาน
Bottom Up
ข้อดี: เข้าใจปัญหาหน้างานจริง, ช่วยสร้างการมีส่วนร่วมจากทีมงาน
ข้อเสีย: ขาดอำนาจตัดสินใจ, หากไม่มีการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจก็ไม่อาจจะไปต่อได้, บางครั้งก็ขาดการมองภาพใหญ่ให้ครอบคลุม
พูดง่ายๆ ก็คือ Top down มีพลังในการ “สั่ง” แต่ Bottom up มีพลังในการ “ขับเคลื่อนจริง” จากการลงมือทำ
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรูปแบบต่างก็เหมาะสมกับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
Top down เหมาะกับ
การเปลี่ยนแปลงที่ต้องการความเร็ว
การเปลี่ยนแปลงที่ต้องลงทุนสูง เช่น การซื้อหรือเปลี่ยน ERP หรือระบบหลักๆขององค์กร
Bottom up เหมาะกับ
การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ แบบทดลอง (Pilot)
การปรับปรุงกระบวนการที่เฉพาะเจาะจงในแผนก
องค์กรที่เปิดกว้างต่อการทดลองหรือ Innovation
หากคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับระบบ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ Digital Transformation สามารถปรึกษา ASAP Project ได้ที่ hello@asapproject.co หรือ www.asapproject.co เพื่อคุยกันเบื้องต้นได้เลย!
#ทำที่บ้าน #digitaltransformation



