- Thiti Kunajipimol
เปรียบเทียบ ClickUp vs Monday.com ม้วนเดียวจบ
ถ้าพูดถึง Project management tools ทุกคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ ClickUp หรือ Monday.com กันมาบ้างแล้ว หากใครยังไม่เคย ก็สามารถกดดูรีวิวของเราก่อนได้เลย

ในบล็อคนี้ เราจะมาเปรียบเทียบ ClickUp กับ Monday.com แบบชัดๆ เผื่อใครกำลังตัดสินใจว่าจะใช้ตัวไหน จะได้เลือกได้ถูก โดยเราจะเปรียบเทียบทั้งสองตัวตามแต่ละปัจจัยสำคัญของการเลือกซอฟต์แวร์ประเภท Project Management ดังนี้
มาดูแต่ละหัวข้อกันเลย
1. UX/UI

ClickUp | |
ClickUp จะเน้นเปิดให้เห็นข้อมูลเยอะๆในหน้าเดียวกัน มีการแบ่งหน้าจอเป็นหลาย section และมี Option แอบซ่อนอยู่หลายๆ ที่ หากใครใช้ไม่คล่อง อาจจะงงว่าตรงไหนเป็นตรงไหน อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้ก่อนเล็กน้อย | Monday.com จะเน้นความตรงไปตรงมา ส่วนมากเราจะอยู่ในหน้าของ Board ซึ่งลิสรายการงานในรูปแบบของตาราง ไม่ต่างจากการใช้ excel จนเกินไป navigate ง่ายกว่า เริ่มต้นใช้งานได้ง่าย |
Verdict: Monday.com ดูคุ้นเคยกว่าสำหรับคนที่อาจจะเพิ่งเริ่มต้นใช้งานเครื่องมือ Project Management
2. Task Management
ClickUp | |
การจัดการงานของ ClickUp ทำได้ยืดหยุ่นพอๆ กับของ Monday.com
ฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ทำให้เกิดความสะดวกสบายที่ติดใจได้ง่ายๆ เลยทีเดียว | Monday.com เน้นความง่ายในการใส่รายละเอียดงาน
|
เปรียบเทียบระดับโครงสร้างการบันทึกข้อมูลใน ClickUp vs Monday.com
ClickUp | |
Space | Workspace |
Folder (มีหน้างานที่รวมเอาทุก List ไว้ด้วยกัน) | Folder (ไม่มีหน้างาน เป็นเพียง Folder รวม Board เอาไว้ในเมนู) |
List | Board (หน้างานหลัก) |
Task | Item |
Custom fields | Columns |
Sub-task | Sub-item |
Checklist | - |
Verdict: ClickUp มีฟีเจอร์สำหรับการจัดงานที่เยอะกว่า Monday.com แต่สำหรับคนที่ต้องการใช้งานง่ายๆ ตรงไปตรงมา Monday.com ก็ตอบโจทย์
3. Views

ClickUp | |
ClickUp มีมุมมองของงานที่หลากหลายพอๆ กันกับ Monday.com ถึงแม้จะไม่ได้แสดงผลเหมือนกันทั้งหมด ถ้าดูกันในรายละเอียด ClickUp ดูจะมี View ที่สร้างสรรค์กว่าเล็กน้อย ซึ่งไม่มีใน Monday.com เช่น
| Monday.com มีมุมมองที่จำเป็นครบถ้วนดี และในแต่ละมุมมองก็ทำออกมาได้มีประโยชน์ ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำ Gantt chart ได้ดี มี Dashboard เป็นอีกหนึ่งมุมมอง ซึ่งทำให้เหมือนมีมุมมองอีกหลายๆ ประเภทในหน้าเดียวกันได้ แต่ติดที่ว่าส่วนใหญ่แล้วต้องอัพเกรดเป็นแพลนที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายก่อนจึงจะใช้งานได้ |
Verdict: ClickUp มีมุมมองให้มากกว่าค่อนข้างมากในแพ็กเกจฟรี สำหรับ Monday.com ก็จะมีมุมมองให้ใช้เพิ่มขึ้นตามแพ็กเกจที่เสียค่าใช้จ่ายแล้ว
4. Process Management
ClickUp | |
การกำหนด Status ใน ClickUp นั้นค่อนข้างยืดหยุ่น
| ส่วนใน Monday.com ในส่วนที่เป็น Task ในหน้า Board จะมีคอลัมน์ Status มาให้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ซึ่งก็จะมาพร้อมสถานะ default ให้ได้แก่ Working on it, Stuck, Done แต่เราก็เพิ่มเติมสถานะ พร้อมกับใส่สีเพื่อแยกแยะเข้าไปได้ง่ายๆ สถานะจะมีแค่ในคอลัมน์ตรงนี้ในส่วนของ Item หากมี Sub-item ก็จะใช้สถานะเดียวกันไปเลย |
Verdict: หากต้องการบริหารงานที่มีขั้นตอนแตกต่างกันในโปรเจ็คเดียว ClickUp จะรองรับได้ดีกว่าเพราะมีความยืดหยุ่น แต่หากว่าต้องการบริหารทุกงานให้เข้าใจง่ายและตรงกัน เห็นชัดเจนว่าอันไหนทำหรือยังไม่ทำ Monday.com จะทำให้ออกแดชบอร์ดตรงนั้นได้ง่ายกว่า
5. Time Management

ClickUp | |
ClickUp มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับการจับเวลาทำงาน คือ การทำ Time tracking เพื่อจับเวลาในแต่ละ task ได้ และ Estimated time หรือการตั้งเวลาที่คาดว่าจะต้องใช้ได้ (2 ฟีเจอร์นี้ฟรี) เราสามารถเรียกดูรายงานจากการจับเวลาเหล่านี้ได้ในแดชบอร์ด (แต่แดชบอร์ดใช้ได้แค่ 100 ครั้งในแพ็กเกจฟรี หลังจากนั้นต้องซื้ออัพเกรดแล้วนะ) | Monday.com ก็มีคอลัมน์ให้เราเพิ่มเข้าในแต่ละ Item เพื่อจับเวลาทำงานอีกเช่นกัน ซึ่งเราสามารถเพิ่มเป็นบันทึกเข้าไปทุกครั้งที่มีการทำงาน และสามารถ export ออกมาเป็น excel แต่ฟีเจอร์นี้จะอยู่ในแพ็กเกจ Pro เป็นต้นไป |
Verdict: ทั้งสองแอปพลิเคชันมีฟีเจอร์ในเราจับเวลาทำงานได้อย่างดี แต่เพื่อที่จะใช้ประโยชน์สูงสุด เราต้องเป็นลูกค้าที่ใช้แพ็กเกจจริงจัง
6. Dashboard

ClickUp | |
ClickUp มีแดชบอร์ดให้ใช้ตั้งแต่แพ็กเกจฟรี และมุมมองที่มีให้ก็ใช้ได้เลย แต่ก็ใช้ได้แค่ 100 ครั้ง หากต้องการใช้อย่างเต็มที่ ต้องใช้แพ็กเกจ Business ขึ้นไป | Monday.com มีแดชบอร์ดให้ใช้ฟรีก็จริง แต่ในแต่ละแดชบอร์ดจะแสดงผลจากงานในบอร์ดเดียว หรือ โปรเจ็คเดียวเท่ากัน ถ้าต้องการรวมงานจากหลายๆ บอร์ดหรือโปรเจ็ค และต้องการมุมมองที่มีประโยชน์จริงๆ ต้องเริ่มใช้ตั้งแต่แพ็กเกจ Pro เป็นต้นไป |
Verdict: แดชบอร์ดของทั้งคู่ มี Widget ให้เราเอามาวางแบบ Drag and Drop ได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นการดูภาพรวมของโปรเจ็คต่างๆ การดูความคืบหน้าของงานเฉพาะที่เราดูแลในรูปแบบของชาร์ต/กราฟ ดูตัวเลขสำคัญๆโดยเราตั้งวิธีคำนวณเองได้ ดู workload ของคนในทีม หรือเอาแอปพลิเคชันข้างนอกเข้ามาแปะก็ยังได้
7. Collaboration
ClickUp | |
ClickUp มีวิธีให้เราทำงานร่วมกันได้อย่างมากมาย ได้แก่
| Monday.com ก็มี collaboration tool ที่ใช้งานง่าย ได้แก่
|
Verdict: ClickUp มีวิธี collaboration มากกว่า Monday.com แต่ฟีเจอร์พื้นฐานอย่าง chat/comment เหมือนกัน
8. Automation
ClickUp | |
ClickUp มี automation ให้เลือกมากมายกว่า 100 วิธี โดยแบ่งแยกเป็นประเภทเอาไว้ให้ตามแต่ละช่องข้อมูลหรือ field สำคัญ นอกจากนั้น ยังครอบคลุมการทำ automation กับแอปพลิเคชันด้านนอกอีกเล็กน้อยด้วย หากที่ ClickUp มีให้ไม่พอ เราสามารถทำ automation แบบ “custom” ตามกรณีของเราเองได้ด้วย จำนวนของ automation จะเปลี่ยนไปแล้วแต่แพ็กเกจที่เลือก และสามารถซื้อเพิ่มเติมได้ เริ่มใช้เบาๆ ได้ตั้งแต่แพ็กเกจฟรี วิธีสร้างอยู่ในรูปแบบ When > Then หรือเมื่อ…ให้เกิด…. ซึ่งก็เข้าใจได้ง่าย | Monday.com ก็มี automation ให้เลือกเยอะมากพอๆ กับ ClickUp และมีการแยกแบ่งตามประเภทเหมือนกัน สามารถทำ custom automation ขึ้นมาเองได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่ได้ทำร่วมกับแอปภายนอก หากต้องการใช้ Automation ทั้งหมดไม่มีอยู่ในแพ็กเกจฟรี วิธีสร้างง่ายมากๆ เพราะอยู่ในรูปแบบของประโยค If, then เชิงเงื่อนไขแล้วเติมคำลงในช่องว่างเอา |
Verdict: ทั้ง ClickUp และ Monday.com ทำได้ดีมากทั้งคู่ในเรื่องนี้
9. Integration
ClickUp | |
ClickUp เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันมากกว่า 1000 ตัว แต่หากต้องการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ให้เริ่มใช้ที่แพ็กเกจ $5 ขึ้นไป ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องเป็นการเชื่อมต่อผ่าน third-party อย่าง Zapier หรือ Integromat | Monday เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันได้มากพอๆ กัน แต่ก็ไม่มีในแพ็กเกจฟรี ข้อดีคือมีการแบ่งประเภทของแอปพลิเคชันที่เชื่อมเอาไว้ให้ และมีแนะนำ use case หรือกรณีเอาไว้ให้ด้วย |
Verdict: ทั้ง ClickUp และ Monday.com ทำ integration ได้อย่างยืดหยุ่น และเตรียมเอาไว้ดีมากพอๆ กัน Monday.com อาจจะละเอียดในเชิงว่ามีกรณีให้เลือกได้ด้วย ส่วน ClickUp ก็ยังเปิดโอกาสให้คนใช้แพ็กเกจฟรีมีทางเชื่อมต่อผ่าน third-party
ข้อสรุป
มาดูสรุปการเปรียบเทียบระหว่าง ClickUp กับ Monday.com กันอีกทีในแต่ละหัวข้อที่เราพูดถึงไปข้างต้น
หัวข้อ | ClickUp | สรุป | |
Task Management | มี 6 ระดับ (ไม่นับ custom field) | มี 5 ระดับ (ไม่นับ column) | ClickUp ละเอียดกว่า |
Views | ใช้ได้มากกว่าในแพ็กเกจฟรี | ต้องใช้ Paid plan เพื่อเข้าถึงหลาย View | ClickUp ให้ใช้เยอะกว่าในแพ็กเกจฟรี |
Process Management | ยืดหยุ่น และปรับแต่งได้มากกว่าในแต่ละโปรเจ็ค | ยืดหยุ่นน้อยกว่าเล็กน้อย | พอกัน แต่ถ้าต้อง customize เยอะๆ ก็เหมาะกับ ClickUp |
Time Management | จับเวลาได้ + เปรียบเทียบเวลาที่คาดว่าจะใช้ในแต่ละงาน | จับเวลาได้ | พอกัน แต่ ClickUp มี add-on ให้เยอะกว่าเล็กน้อย |
Dashboard | ต้องใช้แพลน Business ขึ้นไป | ต้องใช้แพลน Pro ขึ้นไป | เทียบกัน ClickUp ถูกกว่าเล็กน้อย |
Collaboration | แชท/คอมเม้น + Proof เอกสาร + อีเมล | แชท/คอมเม้นรายคน รายทีม | พอกันในฟีเจอร์พื้นฐาน |
Automation | ทำไว้ให้เลือกตามกรณี | ทำไว้ให้เลือกตามกรณี ถือเป็นจุดเด่น | พอกัน แล้วแต่ความถนัดในการใช้งานของแต่ละคน |
Integration | ใช้ได้ในแพ็กเกจฟรี ผ่าน third-party | ใช้ได้ในแพ็กเกจ Standard เป็นต้นไป | พอกัน แต่เริ่มใช้ได้ถูกกว่าใน ClickUp |
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับการเปรียบเทียบคู่ ClickUp กับ Monday.com จะเห็นว่าทั้งคู่ทำได้ดีพอๆ กันในหลายๆ เรื่อง แต่ ClickUp อาจจะดูได้เปรียบเทียบ หากมองในมุมของราคาแพ็กเกจเทียบกับฟีเจอร์ แต่หากใครต้องการความ simple ตรงไปตรงมาในการใช้งาน Monday.com ก็ตอบโจทย์
ลองเปรียบเทียบด้วยตนเองได้เลย โดยการทดลองใช้วันนี้!
ClickUp > https://clickup.com/?fp_ref=jan81
Monday.com > https://mondaycom.grsm.io/wtcxmujnhi1i
ใครเคยใช้แล้วมีคอมเม้นต์หรือความคิดเห็นยังไง มาแชร์กันได้เลย แล้วติดตามเครื่องมือใหม่ๆ ที่เราจะรีวิวได้ที่บล็อกของเรา หรือรายการ Toolscape by ASAP Project ใน Youtube, Facebook, และ Blockdit