DX 101: เริ่มต้นทรานซ์ฟอร์ม "ธุรกิจผลิต"
หากที่บ้านคุณทำธุรกิจผลิต (Manufacturing) นี่คือบทความที่จะพาคุณไปรู้จัก Areas of Digital Transformation สำหรับธุรกิจของคุณกันครับ
ในบทความที่แล้วทุกท่านน่าจะเริ่มเห็นภาพของการเตรียมตัวทำ Digital Transformation กับธุรกิจที่บ้าน ที่คล้ายกับการออกเดินทางขึ้นสู่ยอดเขากันไปแล้ว ในบทความนี้เรามีกล้องส่องทางไกลมาฝากทายาททุกท่านครับ ASAP Project จะช่วยให้ท่านผู้อ่านได้มองเห็นยอดเขาของท่านได้ชัดเจนขึ้นอีกหน่อยโดยการพูดถึง Areas of Digital Transformation ฉบับเริ่มต้นกันครับ
TYPE
Thoughts
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจในภาพรวมกันก่อนนะครับ
ผมขอแบ่ง Areas of Digital Transformation ออกมาเป็น 5 Areas หลักๆดังนี้ครับ
Customer Confront (ส่วนงานที่สัมผัสกับลูกค้าโดยตรง)
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขาย งานมาร์เกตติ้ง และการดูแลลูกค้าหลังการขาย เครื่องมือที่เกี่ยวข้องเช่น: Sales Automation, Order Management, CRM, CDP, Helpdesk, ChatBot, POSCore Engines
งานอย่างบัญชี-การเงิน งานจัดซื้อ บริหารสินค้าคงคลัง มักจะเป็นแกนหลักของธุรกิจทั่วไปอยู่แล้ว ซึ่งมักจะเป็นโมดูลย่อยๆอยู่ในซอฟต์แวร์ ERP แต่บางธุรกิจที่ต้องการการจัดการที่ซับซ้อนขึ้นก็อาจจะต้องใช้ ซอฟต์แวร์เฉพาะทางแยกออกมา นี่จะเป็นกลุ่มเครื่องมือที่ทำให้ธุรกิจของคุณ “เป๊ะ” มากๆครับ เครื่องมือที่เกี่ยวข้องเช่น: Accounting Software, ERP, Inventory Management System, E-Procurement SystemAdvance Trading & Manufacturing tools
ในธุรกิจขนาดใหญ่หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตมักจะต้องการเครื่องมือเฉพาะทางที่ใช้ในการบริหารจัดการงานที่ซับซ้อนขึ้น เพราะการวางแผนการผลิตนั้นไม่ใช่เรื่องหมูๆเลย ยิ่งคุณมีสูตรการผลิต และ ขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อน บางธุรกิจอาจจะวุ่นวายในระดับของวัตถุดิบ และบางธุรกิจอาจจะต้องลงลึกถึงคิวการใช้เครื่องจักรต่างๆ และการวัดผลผลิต - ของเสีย กันเลยทีเดียว เครื่องมือที่เกี่ยวข้องเช่น: MRP, APS, MES, WMS, TMS, Fleet ManagementManagement Office
งานส่วนนี้เป็นงานออฟฟิสที่เกี่ยวข้องกับการมองรายงานภาพรวมของธุรกิจ การประสานงาน และการเดินเอกสาร ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการมากอยู่เหมือนกันหากไม่มีเครื่องมือเข้ามาช่วยจัดการ เครื่องมือที่เกี่ยวข้องเช่น: Project Management tools, Workflow Automation, BIHR Management
งานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการพนักงานทั้งหลายที่จะช่วยย่นระยะเวลาการทำงานของคุณไปได้มาก คุณสามารถอ่านบทความ เกี่ยวกับ HR Transformation ได้ที่ Link นี้ครับ
เครื่องมือที่เกี่ยวข้องเช่น: HRM, HRD, Recruitment System, Employee Engagement Tools
ซึ่งทั้ง 5 Areas นี้อาจจะมีความเข้มข้นมากน้อยแตกต่างกันไปตามประเภทและขนาดของธุรกิจ ซึ่งในบทความนี้ (Manufacturing Vertical - กลุ่มธุรกิจผลิต) เราจะมาโฟกัสกันในข้อที่ 1 และ 3 เป็นหลักกันก่อนนะครับ เพราะทั้งสองข้อจะแสดงความแตกต่างที่ค่อนข้างชัดเจนตามประเภทธุรกิจ ผมอาจจะยังไม่ได้พูดถึงข้อที่ 2, 4 และ 5 มากนักเพราะทั้งสามข้อนี้จะแสดงความแตกต่างตาม ขนาดของธุรกิจและการให้ความสำคัญของผู้บริหารมากกว่า
Manufacturing Vertical - กลุ่มธุรกิจผลิต
เรากำลังพูดถึงกลุ่มธุรกิจที่มีขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนโดยเฉพาะในส่วนของการผลิต ดังนั้นการที่จะทำให้คุณสามารถมองเห็นรายงานต้นทุนและประสิทธิภาพงานที่สำคัญๆได้ ก็คือความสามารถในการติดตาม (Tracking) ผลลัพธ์ในขั้นตอนต่างๆให้ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็น area ที่ Digital Tools หรือ Software สามารถช่วยคุณได้เยอะมากๆครับ
เริ่มต้นอย่างไรดี
เอาล่ะครับ เมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้ ผมคิดว่าคุณน่าจะพอมองเห็นภาพของการมีซอฟต์แวร์ต่างๆเข้ามาช่วยในธุรกิจ Manufacturing พอสมควรแล้ว
ขั้นตอนต่อไปที่คุณควรจะเริ่มทำก็คือ ศึกษาทำความเข้าใจกับซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับ Area ที่คุณให้ความสำคัญ และเริ่มรวบรวมปัญหาที่เกิดขึ้นออกมาเป็น List
ซึ่งสำหรับธุรกิจผลิตแล้ว คุณควรจะโฟกัสที่ขั้นตอนการผลิตและการจัดการวัตถุดิบเป็นพิเศษ แล้วลองพิจารณาว่าซอฟต์แวร์ที่คุณกำลังมองหาอยู่นั้น สามารถช่วยคุณจัดการปัญหาเหล่านั้นได้จริงหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน เพราะมันอาจจะถึงเวลาที่ต้องให้ระบบเป็นตัวหลักในการวางแผนการผลิตแทนที่จะยึดติดกับพนักงานคนใดคนหนึ่ง เพราะคุณก็ไม่อยากเห็นสถานะการแบบ “ขาดเขาก็เหมือนขาดใจ” ใช่ไหมล่ะครับ
ทั้งนี้ หากคุณมองว่าการศึกษาข้อมูลทั้งหมดด้วยตัวเองอาจเป็นสิ่งที่ยากเกินไป คุณอาจจะเริ่มจากการพูดคุยกับคนรู้จักในธุรกิจประเภทเดียวกัน หรือลองมองหาผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษากับคุณได้
อย่างไรก็ตาม ผมขอแนะนำว่าอย่าพึ่งเชื่อหรือใช้ซอฟต์แวร์ตัวเดียวกันกับธุรกิจนั้นๆโดยทันที เพราะแม้ว่าคุณจะอยู่ในประเภทธุรกิจเดียวกัน แต่ workflow, ขนาด, ทีมงาน และ style ของแต่ละบริษัทก็แตกต่างกันและนั่นก็เป็นประเด็นที่สำคัญที่ส่งผลต่อการเลือกซอฟต์แวร์ด้วย
ดังนั้นคุณในฐานะของทายาทที่ต้องการเปลี่ยนแปลง ต้องการทำ Digital Transformation ผมเชื่อว่าคุณคือคนที่สำคัญที่สุดและต้องเข้าใจเรื่องนี้ให้ได้มากกว่าใคร เพราะคุณจะต้องทำหน้าที่โน้มน้าวทุกๆคนในบริษัท ตั้งแต่พนักงาน ไปจนถึงผู้บริหารและท่านประธานของเรา สุดท้ายนี้ ASAP Project ขอเป็นกำลังใจให้ทายาทในธุรกิจผลิตทุกคนมองหายอดเขาของตัวเองให้พบโดยเร็วนะครับ
ASAP Project เป็นที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ที่จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจด้วยเทคโนโลยี
#digitaltransformation #manufacturing #ทำที่บ้าน